2000 - 2009: ความก้าวหน้าบนเส้นทางใหม่
เนื่องจากความท้าทายที่เผชิญในธุรกิจ ชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ยูนิลีเวอร์จึงปรับปลี่ยนในระดับองค์กรและกลยุทธ์ที่จะทำให้แน่ใจว่าเรายังคงเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน

ขณะที่พฤติกรรมการซื้อขายและการช็อปปิ้งของผู้คนเริ่มเปลี่ยนและผู้บริโภคได้รับแรงบันดาลใจด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และพลเมืองมากขึ้น ดังนั้นยูนิลีเวอร์ยอมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งในรูปแบบที่ธุรกิจของเราถูกสร้างโครงสร้างและวิธีที่เราคิด กลยุทธ์ Path to Growth นำไปสู่การเข้าซื้อธุรกิจมากขึ้น และการใช้เหตุผลตัดสินในเรื่องการผลิตและสถานที่ตั้งเพื่อก่อตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ โครงการเดอะ วัน ยูนิลีเวอร์ จัดวางองค์กรอยู่หลังกลยุทธ์หนึ่งเดียว ซึ่งทำให้ธุรกิจเรียบง่ายและใช้ประโยชน์จากขนาดของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เราสร้างประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัตถุประสงค์ทางสังคมโดยแฝงความคิดแบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้นเข้าในกิจกรรมแต่ละวันของเรา
ในปี ค.ศ. 2002 แบรนด์ไลฟ์บอยเริ่มดำเนินโครงการอบรมด้านสุขอนามัย Swasthya Chetna ซึ่งสร้างความแตกต่างให้แก่ชีวิตของประชากร 120 ล้านคนในเขตชนบทของอินเดีย ขณะที่ในปี ค.ศ. 2004 เรากลายเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) ในปี ค.ศ. 2008 ในความพยายามที่จะช่วยหยุดการทำลายป่า เราประกาศพันธกรณีของเราที่จะสกัดน้ำมันปาล์มของเราทั้งหมดจากแหล่งที่ยั่งยืนและได้รับการรับรองภายในปี ค.ศ. 2015
ในช่วงปลายทศวรรษ โลกประสบภาวะเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึงและความไม่แน่นอนของสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงที่ยูนิลีเวอร์ประสบนั้นมีผลต่อการเปิดตัวกลยุทธ์ The Compass ในปี ค.ศ 2009 ซึ่งเตรียมให้เราพบกับทศวรรษหน้าด้วยต้นแบบธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อขยายขนาดธุรกิจของเราเป็นสองเท่าขณะเดียวกันลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของเรา
เหตุการณ์สำคัญ
2000
เบสท์ฟู้ดส์เข้าร่วมกับยูนิลีเวอร์ในการเข้าซื้อกิจการแบบเงินสดครั้งใหญ่เป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ การเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ ได้แก่ สลิม-ฟาสท์ ฟู้ดส์ และเบน แอนด์ เจอร์รีสรวมทั้งธุรกิจอาหาร Amora-Maille ในประเทศฝรั่งเศส
เราเปิดตัวสถาบันสุขภาพยูนิลีเวอร์ นั่นคือศูนย์ความเป็นเลิศทางโภชนาการ สุขภาพและพลังชีวิต
2001
ในปี ค.ศ 2001 ยูนิลีเวอร์ลดแบรนด์ลงจาก 1,600 เหลือ 900 แบรนด์ ไดเวอร์เซย์ลีเวอร์ อลิซาเบธ อาร์เดนและยูนิพาธถูกขายออกไป
2002
หลักทรัพย์แบรนด์ของเราถูกเปลี่ยนรูปแบบและเสริมกำลังขึ้นผ่านการเข้าซื้อกิจการและการขายธุรกิจ 87 บริษัทซึ่งสร้างรายได้จากการขาย 6.3 พันล้านยูโร
2003
สถาบันสุขภาพยูนิลีเวอร์เปิดศูนย์ระดับภูมิภาคในกรุงเทพฯ ประเทศไทย และกรุงอักกรา ประเทศกานา
นโยบายด้านโภชนาการและสถาบันสุขภาพและโภชนาการเริ่มดำเนินการ
2004
พันธกิจการเติมพลังชีวิตเริ่มดำเนิน และแบรนด์ยูนิลีเวอร์ใหม่ถูกแนะนำซึ่งรวมทั้งสัญลักษณ์ใหม่ที่แสดงถึงความหลากหลายของยูนิลีเวอร์ ผลิตภัณฑ์และคนของเรา
2005
ยูนิลีเวอร์ขายยูนิลีเวอร์ คอสเมติก อินเตอร์เนชั่นเนล (UCI) ให้แก่ โคตี้ อิงค์ของสหรัฐอเมริกา การขายสอดคล้องกับกลยุทธ์ของยูนิลีเวอร์ที่มุ่งเน้นประเภทผลิตภัณฑ์แกนหลัก
โครงการเสริมสร้างโภชนาการเสร็จสมบูรณ์ โดยมีผลิตภัณฑ์ 16,000 ชนิดเข้าประเมินระดับไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัว โซเดียมและน้ำตาล และดำเนินการในกรณีจำเป็น
2006
Antony Burgmans ลาออกจากตำแหน่งประธาน หลังจากอยู่กับบริษัทเป็นเวลานานกว่า 35 ปี Michael Treschow สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขาในฐานะประธานกรรมการอิสระคนแรกของยูนิลีเวอร์
เทคโนโลยีใหม่ช่วยสร้างสมอลแอนด์ไมตี้ที่เป็นผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกชนิดน้ำที่เข้มข้นสุดขีดซึ่งจะใช้บรรจุภัณฑ์หนึ่งในสาม น้ำหนึ่งในสามและชองเหลวเจือจางหนึ่งในสาม
2007
ยูนิลีเวอร์ประกาศข้อตกลงที่จะเข้าซื้อแบรนด์เครื่องดื่มเติมพลังบัววิตาในอินโดนีเซีย และอินมาร์โกที่เป็นธุรกิจไอศครีมชั้นแนวหน้าในประเทศรัสเซีย
ยูนิลีเวอร์ให้คำมั่นจะจัดหาชาของเราทั้งหมดจากแหล่งที่มีจริยธรรมและยั่งยืน โดยขอให้เรนฟอเรสท์ อลิอันซ์เริ่มตรวจสอบซัพพลายเออร์ชาของเราโดยมีผลทันที
2008
เราประกาศขายธุรกิจหลายอย่างซึ่งรวมทั้งธุรกิจซักรีดในทวีปอเมริกาเหนือ ธุรกิจน้ำมันที่ใช้บริโภคในสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ผลประโยชน์ของเราในสวนปาล์มน้ำมันในประเทศ Palmci and PHCI และน้ำมันมะกอก Bertolli รวมทั้งธุรกิจน้ำส้มสายชูให้แก่ Grupo SOS
เราให้คำมั่นที่จะย้ายสู่การจัดหาน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนภายในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งมีการซื้อขายน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนและได้รับการรับรองชุดแรกในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อดำเนินกิจการมาถึงปีที่สิบ ยูนิลีเวอร์ได้รับเลือกเป็นผู้นำภาคอาหารในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ซึ่งเป็นบริษัทเพียงแห่งเดียวที่ประสบความสำเร็จได้รับเกียรติดังกล่าว
2009
พอล โพลแมนดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมื่อวันที่ 1 มกราคม ต่อจากแพทริก เซสซอ ที่เกษียณอายุหลังจากทำงานกับบริษัทมานาน 35 ปี
ยูนิลีเวอร์จัดซื้อน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน 185,000 ตันผ่านใบรับรองกรีนปาล์มคิดเป็นปริมาณประมาณ 15% ของความต้องการทั้งหมด
ชาถุงลิปตัน เยลโล่ ลาเบล และชาถุง PG Tips ประมาณ 80% ที่ขายในยุโรปตะวันตกมีแหล่งที่มาจากสวนที่มีใบรับรอง ทั้งนี้ ชาจากฟาร์มที่ผ่านการรับรองจาก Rainforest Alliance มีบริการในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย
อาหารโรงเรียนเกือบ 17 ล้านมื้อถูกส่งมอบให้แก่เด็กจำนวน 80,000 คนผ่านความร่วมมือของเรากับโครงการอาหารโลก
จนถึงสิ้นปี ยูนิลีเวอร์เปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่ของเรา คือ เพิ่มขนาดธุรกิจของเราเป็นสองเท่าขณะเดียวกันลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยรวม