โดยความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ภายใต้โครงการ“มือวิเศษกรุงเทพ เฟส 2” ในครั้งนี้ ยูนิลีเวอร์และบริษัท ซีโร่ เวสท์ โยโล จำกัด สนับสนุนการจัดทำตะแกรงเหล็ก ซึ่งใช้เป็นจุดรับคืนขยะพลาสติกรีไซเคิลม ูลค่าต่ำหรือขยะที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อาทิกล่องโฟมโฟมกันกระแทกฟิล์มยืดช้อนส้อมพลาสติก ถุงบรรจุอาหาร ซองขนม แคปซูลกาแฟ ชามเมลามีน เป็นต้น เพื่อนำพลาสติกเหล่านี้ไปรีไซเคิลหรือผลิตเป็นพลังงานทดแทนโดยยูนิลีเวอร์ได้ผลิตตะแกรงเหล็กจำนวนทั้งสิ้น52อันเพื่อติดตั้งเป็นจุดรับคืนพลาสติกรีไซเคิลมูลค่าต่ำที่สำนักงานเขตกทม. จำนวน50เขตและที่ศาลาว่าการกทม. อีก2จุด
“การสนับสนุนกิจกรรมลดขยะพลาสติกของกทม.ในครั้งนี้ถือเป็นโครงการต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน พร้อมรณรงค์ช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้คนกรุงเทพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี พร้อมให้ความรู้เรื่องการคัดแยกพลาสติกใช้แล้ว สร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำพลาสติกใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบเพื่อนำไปหมุนเวียน สร้างคุณค่าใหม่ ช่วยให้การรีไซเคิลมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน” นางณัฏฐิณี เนตรอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโสส่วนองค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าว
ยูนิลีเวอร์ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 90 ปีมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีพันธกิจด้านพลาสติก4 ข้อที่จะต้องทำให้ลุล่วงภายในปี 2568ได้แก่ 1) มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 100% ให้สามารถรีไซเคิลได้ใช้ซ้ำได้หรือย่อยสลายได้ 2) ลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่งหรือ1แสนตันทั่วโลก 3) เก็บรวบรวมพลาสติกและนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไปและ 4) ใช้พลาสติกที่รีไซเคิลแล้วในการทำบรรจุภัณฑ์ 25%
ที่ผ่านมายูนิลีเวอร์เข้าไปมีส่วนร่วมในหลายโครงการมากมายอาทิ Recycling Collection Center กับสยามพิวรรธน์ส่งพลาสติกกลับบ้านและมือวิเศษxวนเป็นต้นและในฐานะสมาชิก PPP Plastic บริษัทพร้อมสนันสนุนภารกิจของกทม.ที่จะลดขยะพลาสติกในกรุงเทพมหานคร.
ด้านนายศานนท์หวังสร้างบุญรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่ากทม.มีนโยบายในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนเกิดเป็นภาคีเครือข่ายโดยกิจกรรมที่กทม. รณรงค์ และอยากให้แต่ละองค์กรเข้าร่วมสนับสนุนอยู่มีด้วยกัน4 ด้านได้แก่การใช้พลังงานหมุนเวียนการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวการจัดการและลดปริมาณขยะและการบริหารระบบจราจร
สำหรับโครงการ “มือวิเศษกรุงเทพ” เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนโดยกทม.ทำหน้าที่เป็นคนกลางหาสถานที่ให้ประชาชนมาร่วมบริจาคซึ่งจะทำให้นโยบายแยกขยะที่ต้นทางเกิดขึ้นได้จริงในสังคมของคนกรุงเทพฯเพราะเป้าหมายสำคัญคือ “ทำอย่างไรจะปลูกฝังให้เยาวชนและคนไทยช่วยกันแยกขยะอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากที่สุด” โดยระหว่างวันที่ 19 ตค-15 ธค ที่ผ่านมา จุดรับมือวิเศษทั้ง 52 แห่ง ได้รับบริจาคพลาสติกทุกประเภทรวมทั้งสิ้น 8.2 ล้านตัน และเมื่อรวมขยะพลาสติกจากเครือข่ายความร่วมมืออื่นๆ มีปริมาณมากถึง 10 ล้านตัน
“ผมขอเชิญชวนให้คนกรุงเทพนำขยะพลาสติกรีไซเคิลมูลค่าต่ำมาบริจาคที่จุดรับบริจาคซึ่งตั้งอยู่ในสำนักงานเขตทุกแห่งและศาลาว่าการกรุงเทพมหานครทั้ง2 แห่งเพียงล้างพอสะอาด ผึ่งให้แห้ง เก็บรวบรวมไว้แล้วนำส่งที่จุดรับ ซึ่งยูนิลีเวอร์ได้ให้การสนับสนุนโดยการจัดทำตระแกรงเหล็กขึ้นมา เพื่อโครงการมือวิเศษเฟส 2 ของกทม.โดยเฉพาะ”นายศานนท์กล่าว