ข้ามไปที่ เนื้อหา

การจัดซื้ออย่างยั่งยืนสำคัญอย่างไร? ยูนิลีเวอร์พามาดูต้นทางการผลิตขององค์กรระดับโลก

ที่ตีพิมพ์:

ยูนิลีเวอร์อยากแนะนำให้รู้จักกับการจัดซื้ออย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นทางของวัตถุดิบ ด้วยกรณีตัวอย่างของการจัดซื้อน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนและปราศจากการทำลายป่า

ผู้หญิงเก็บผลปาล์มตามแนวทางการจัดซื้อน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน

น้ำมันปาล์มและความท้าทายด้านการจัดซื้ออย่างยั่งยืน

น้ำมันปาล์มเป็นพืชที่มีความหลากหลายสูง และมีประโยชน์หลากหลาย เช่น ทำให้เกิดฟอง สร้างการยึดเกาะ และสร้างการคงตัว เป็นเหตุผลว่าทำไมในอุตสาหกรรมต่างๆ จึงมักใช้น้ำมันปาล์มเป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์มากมาย ตั้งแต่อาหารและความงามไปจนถึงการทำความสะอาดในครัวเรือน นอกจากนั้นน้ำมันปาล์มยังเป็นพืชที่ใช้พื้นที่การปลูกได้อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยมีผลผลิตต่อเฮกตาร์มากกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ เช่น น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันถั่วเหลือง ด้วยเหตุผลเหล่านี้นี่เองที่ทำให้น้ำมันปาล์มเป็นน้ำมันพืชที่ผลิตได้มากที่สุดในโลกในปัจจุบัน

อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มสามารถทำเงิน และสร้างงานมาสู่เศรษฐกิจการผลิต เกิดการจ้างงานเกษตรกรรายย่อยหลายล้านคนในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยในปัจจุบันเกษตรกรผลิตน้ำมันปาล์มได้มากกว่า 70 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากที่เคยผลิตได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่การขยายตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมทำให้ในบางพื้นที่มีการตัดไม้ในป่าฝนเพื่อเปิดทางให้พืชผลใหม่เข้ามาปลูก ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ การขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันยังอาจนำไปสู่ปัญหาสิทธิมนุษยชนมากมาย รวมถึงความขัดแย้งเรื่องที่ดินระหว่างบริษัทที่ปลูกปาล์มกับชุมชนท้องถิ่นและชนพื้นเมือง

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความท้าทายสำคัญที่เราต้องจัดการอย่างเร่งด่วน ทั้งโดยเราและทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง อุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ในฐานะผู้ซื้อน้ำมันปาล์มรายใหญ่ เรามีบทบาทความเป็นผู้นำที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น

แนวทางการผลิตน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน

เมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2566 ยูนิลีเวอร์ได้จัดหาแหล่งน้ำมันปาล์มหลักอย่างยั่งยืนถึง 86% โดย 72% มาจากแหล่งที่ผ่านการรับรองจาก RSPO Mass Balance (โมเดลการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่อนุญาตให้มีการผสมผสานน้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรองจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อส่งเสริมการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน), RSPO Segregated (น้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรองจาก RSPO) หรือมาตรฐานเทียบเท่าที่ได้รับการยืนยันแล้ว โดยที่เหลืออีก 14% เป็นน้ำมันปาล์มจากซัพพลายเออร์รายย่อยอิสระของ Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) หรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อส่งเสริมการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน

ตัวเลขการจัดหาแหล่งน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนของเราสะท้อนถึงความท้าทายที่เรากำลังเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดหาน้ำมันเมล็ดในปาล์มที่ยั่งยืนและผ่านการรับรอง รวมถึงความคืบหน้าที่เราได้ทำเพื่อพัฒนากลยุทธ์ของเราในการร่วมมือกับโรงสีอิสระ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในอุตสาหกรรม เราจึงตัดสินใจที่จะก้าวข้ามการพึ่งพาฐานการจัดหาที่ผ่านการรับรองที่มีอยู่อย่างจำกัด แล้วหันไปซื้อในปริมาณที่เราสามารถรับรองได้ว่าน้ำมันปาล์มปริมาณดังกล่าวจะไม่มีการทำลายป่า เราให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมกับกระบวนการเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่ถูกละเลยจากห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน นั่นคือ กลุ่มโรงสีอิสระและซัพพลายเออร์รายย่อยนั่นเอง

นโยบายการจัดซื้ออย่างยั่งยืน

ยูนิลีเวอร์ตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะจัดตั้งนโยบายการจัดซื้ออย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ผู้จัดหาของเราที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย ซึ่งเรามีส่วนร่วมในการสื่อสารความคาดหวังที่ชัดเจนของเราให้ซัพพลายเออร์ผู้จัดซื้อรับทราบ จนเกิดเป็นนโยบายการจัดซื้ออย่างยั่งยืนที่มีหลักการสำคัญ 4 ประการที่เราต้องการให้ซัพพลายเออร์น้ำมันปาล์มของเราทุกคนปฏิบัติตามตลอดการดำเนินงานและห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งได้แก่

  1. การปกป้องระบบนิเวศธรรมชาติจากการทำลายป่าและการแปลงสภาพ
  2. การเคารพและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
  3. ความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับที่ชัดเจน
  4. การเป็นพลังแห่งความดีสำหรับธรรมชาติและผู้คน

ประโยชน์ที่ได้จากการจัดซื้ออย่างยั่งยืน

  1. สร้างความสัมพันธ์อันดีกับซัพพลายเออร์ผู้จัดหา

    การทำการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน คือการเข้าไปทำงานกับซัพพลายเออร์ผู้จัดหาอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะมั่นใจว่าการดำเนินงานของซัพพลายเออร์ถูกต้องตามหลักการความยั่งยืน และเมื่อองค์กรกับซัพพลายเออร์มีเป้าหมายเดียวกัน เมื่อเกิดเหตุใดๆ มากระทบ แต่ห่วงโซ่อุปทานไม่หยุดชะงักเพราะมีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่ดีนั่นเอง

  2. ลดต้นทุน

    ลดต้นทุนในการผลิตและการจัดซื้อลงไปได้ เพราะผลิตภัณฑ์ของเราจะมีการใช้ทรัพยากรน้อยลง ใช้พลังงานในการผลิตน้อยลง มีการใช้วัตถุดิบที่มาจากการรีไซเคิลเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นต้นทุนในการผลิตจะลดลงในระยะยาว

  3. สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

    การจัดซื้ออย่างยั่งยืนจะทำให้เกิดความโปร่งใสในการจัดหาวัตถุดิบต้นทาง ทำให้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจะมีความมั่นใจและยอมที่จะจ่ายเงินสูงกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นในท้องตลาดเมื่อผลิตภัณฑ์ของเราได้จัดซื้อมาอย่างมีธรรมภิบาล มีความยั่งยืน และปราศจากการทำลายป่า

ความสำคัญของการจัดซื้ออย่างยั่งยืนในองค์กรระดับโลก

เราได้พัฒนามาตรฐานการจัดซื้อที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าการจัดหาวัตถุดิบของเราสอดคล้องกับหลักการความยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะที่ยูนิลีเวอร์เชื่อว่าการจัดซื้ออย่างยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เรามุ่งมั่นที่จะจัดหาวัตถุดิบที่ไม่เพียงแต่มีคุณภาพ แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม นโยบายการจัดซื้ออย่างยั่งยืนของเราช่วยให้มั่นใจว่าการผลิตของเราปราศจากการทำลายป่าและส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว

กลับไปด้านบน