แนวทางการจัดหาอย่างยั่งยืนในแบบของยูนิลีเวอร์
ยูนิลีเวอร์ได้พัฒนาแนวทางและหลักการจัดหาอย่างยั่งยืนมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าทุกผลผลิตที่จะจัดหาจากต้นทางมาจนเข้าสู่กระบวนการการผลิตของเรา จะช่วยปกป้องระบบนิเวศในระยะยาวได้ เช่น
- หลักการเกษตรยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ (The Unilever Sustainable Agriculture Principles - SAP) ที่เพิ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2567 ที่ถือเป็นพื้นฐานสำหรับโปรแกรมการจัดหาอย่างยั่งยืนของเรา โดยหลักการนี้ จะเป็นการรวบรวมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับซัพพลายเออร์ในห่วงโซ่อุปทานด้านการเกษตรของเรา
- นโยบายคู่ค้าที่มีความรับผิดชอบของยูนิลีเวอร์ โดยวัสดุทุกชิ้นที่เราซื้อจากซัพพลายเออร์ผู้จัดหาทั้งหมดจะอยู่ภายใต้นโยบายนี้ เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส และยั่งยืน
จากความพยายามในการพัฒนาแนวทางและนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืนนี้ ทำให้ในปี พ.ศ. 2566 วัตถุดิบทางการเกษตรที่สำคัญกว่า 79% ของพืชผลที่อยู่ในตัวชี้วัดนี้ได้รับการจัดหาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับเกษตรกรและซัพพลายเออร์ผู้จัดหา รวมถึงผู้บริโภคเพื่อกระตุ้นความต้องการส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนจนเกิดเป็นเทรนด์ในเชิงบวก
ตัวอย่างการจัดหาที่ยั่งยืน
- โกโก้แห่งความยั่งยืน
โกโก้เป็นส่วนผสมที่สำคัญสำหรับแบรนด์ต่างๆ ของเรามากมาย เรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อจัดหาโกโก้ที่ยั่งยืนเพื่อให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ และโกโก้ของเรากว่า 99% มาจากโครงการรับรองอย่าง Rainforest Alliance และ Fairtrade ซึ่งทำงานเพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและปรับปรุงแนวทางปฏิบัติของฟาร์มขนาดเล็กผ่านมาตรฐานเกษตรกรรมยั่งยืน มาตรฐานนี้ส่งเสริมการอนุรักษ์ปกป้องระบบนิเวศ สิทธิของคนงาน ความปลอดภัย และการปกป้องสัตว์ป่า โดยภายในปี พ.ศ. 2568 ยูนิลีเวอร์มุ่งหวังที่จะเข้าถึงเกษตรกรโกโก้อย่างน้อยหนึ่งในสาม ซึ่งมีเป้าหมายหลักสามประการ ได้แก่:
- ฟาร์มโคนมแห่งความยั่งยืน
ฟาร์มโคนมเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานส่วนผสมของแบรนด์เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจไอศกรีมของเรา เราจึงสนับสนุนการสร้างมาตรฐานที่สูงในหมู่เกษตรกรที่เราจัดหาสินค้ามา ซึ่งรวมถึงมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ การลดก๊าซเรือนกระจก และการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ แน่นอนว่าสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของเรา เราได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติม รวมถึงการดูแลวัวและลูกวัว การจัดการทุ่งหญ้า การจัดการปุ๋ยคอก หญ้าหมัก น้ำทิ้ง และแหล่งสารอาหารอื่นๆ ตลอดจนยาฆ่าแมลงและยาสำหรับสัตว์ และเกณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้การดูแลฟาร์มโคนมมีความยั่งยืนและปกป้องระบบนิเวศ
- ถั่วเหลืองแห่งความยั่งยืน
การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชอบผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันที่มีความยั่งยืน ดังนั้นการจัดหาแหล่งน้ำมันอย่างยั่งยืนจึงช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้ รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมที่สำคัญในแบรนด์ของเรา เช่น มายองเนสของ Hellmann's ที่ผู้บริโภคทั่วโลกต่างชื่นชอบ โดยในปี พ.ศ. 2566 น้ำมันถั่วเหลืองของเราทั้ง 100% มาจากแหล่งจัดหาที่ยั่งยืน
ในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน เราทำงานร่วมกับเกษตรกร องค์กรพัฒนาเอกชน ซัพพลายเออร์ผู้จัดหา ธุรกิจการเกษตรอื่นๆ และรัฐบาล นอกจากนี้ เรายังมุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานสากลที่ให้การยอมรับเกษตรกรและซัพพลายเออร์สำหรับความพยายามในการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตถั่วเหลือง ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย
ยูนิลีเวอร์กับการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด
จากการจัดหาอย่างยั่งยืนที่เป็นเหมือนต้นทางห่วงโซ่อุปทานที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนั้น เรายังมีการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด เพื่อต่อยอดความยั่งยืนอย่างเต็มประสิทธิภาพให้สมความมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรสีเขียว ซึ่งเราได้ดำเนินการพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีสะอาดมาหลายปีแล้ว โดยในปี พ.ศ. 2565 พลังงานไฟฟ้ากว่า 93% และพลังงานความร้อนหนึ่งในสามของเรามาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ซึ่งโรงงานของเราสามารถผลิตได้เต็มปีโดยไม่ต้องใช้ถ่านหินโดยตรง และเรายังคงมองหาวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานต่อไป นอกจากนี้เราได้ลงทุนกว่า 37 ล้านยูโรในโครงการกองทุนเทคโนโลยีสะอาด ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงประมาณ 88,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เน้นที่พลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพของทรัพยากร เพื่อแจ้งการตัดสินใจลงทุนของเรา เราใช้ราคาคาร์บอนภายในโรงงานที่ 70 ยูโรต่อคาร์บอนไดออกไซด์หนึ่งตัน
ระบบการผลิตของเรา มุ่งมั่นที่จะบูรณาการความยั่งยืนผ่านการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีสะอาดใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมเป็นประจำโดยผู้เชี่ยวชาญภายใน ซึ่งประสิทธิภาพเชิงนิเวศไม่ได้หมายถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องดีสำหรับธุรกิจอีกด้วย ทำให้เรามีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุน เช่น การใช้พลังงานและน้ำจากไซต์การผลิตทั้งหมดผ่านระบบรายงานประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของเราเอาไว้ ทำให้เราสามารถวัดผลประโยชน์ทางการเงินของโปรแกรมประสิทธิภาพเชิงนิเวศของเราได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างความสำเร็จ จากคนอร์ประเทศไทย
ครั้งแรกของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กับแบรนด์คนอร์ ที่ริเริ่มโครงการฟื้นฟูเกษตรกรรม โดยนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับการปลูกข้าวหอมมะลิให้กับเกษตรกร ด้วยการผสานนวัตกรรมเข้ากับแนวทางดั้งเดิม เพื่อสร้างระบบการเกษตรที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุดโครงการฟื้นฟูเกษตรกรรมยั่งยืนของคนอร์ มีแผนการดำเนินงานในระยะยาวกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเวลา 4 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2567 จำนวน 900 คน และตั้งเป้าขยายเป็น 1,200 คนภายในปี 2570 โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรในโครงการทุกคนนำหลักปฏิบัติด้านการเกษตรเพื่อฟื้นฟูไปปรับใช้จริง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมทั้งในด้านการปรับปรุงคุณภาพดินให้ดียิ่งขึ้นและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพด้วยการลดการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง การกักเก็บน้ำ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนด้วยการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจากการเพิ่มผลผลิต โดยโครงการนี้ร่วมพัฒนาโดยบริษัท พีดับบลิวเอส ซิสเท็ม อีโวลูชั่น จำกัด, บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด, ไลฟ์ลี่ฮู้ด เวนเจอร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คนอร์มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตผู้บริโภคอย่างยั่งยืน โดยมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านการส่งมอบอาหารที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการ และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน เราเชื่อมั่นว่าการเริ่มต้นฟื้นฟูเกษตรกรรมคือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับระบบโภชนาการที่ดี เพราะการดูแลและฟื้นฟูธรรมชาติในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำคือเกษตรกร จนถึงปลายน้ำคือผู้บริโภค ล้วนเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์อาหารที่มีคุณภาพและยั่งยืน
โดยหลักสูตรการอบรมที่ออกแบบและวิจัยมาอย่างละเอียด ตอบโจทย์เกษตรกรในพื้นที่อย่างแท้จริง มีการมุ่งเน้นการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติโดยครอบคลุมหัวข้อสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น หลักการเกษตรเพื่อการฟื้นฟู พืชคลุมดินและการปลูกพืชหมุนเวียน การลดการไถพรวนดินและหาทางเลือกในการจัดการฟางข้าว การใช้ปุ๋ยแบบเฉพาะเจาะจง รวมไปถึงการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสานและการควบคุมโดยชีววิธีสำหรับการจัดการโรคและศัตรูพืช เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ยูนิลีเวอร์ร่วมปกป้องระบบนิเวศผ่านการจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืน
จากตัวอย่างโครงการที่ยูนิลีเวอร์ให้การสนับสนุน จะเห็นได้ว่าโครงการเกี่ยวกับการจัดหาอย่างยั่งยืนเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถผลิตสินค้าที่ผ่านกระบวนการใช้เทคโนโลยีสะอาด มีคุณภาพสูงและในขณะเดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยูนิลีเวอร์มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนามาตรฐานการผลิตที่ยั่งยืนและส่งเสริมการปกป้องระบบนิเวศ เพราะเราเชื่อว่าการร่วมมือกันเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป