ยูนิลีเวอร์สนับสนุนเอสเอ็มอี ใส่ใจคนตัวเล็ก

ความสำคัญของเอสเอ็มอี

ธุรกิจของยูนิลีเวอร์พึ่งพาเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางอย่างเอสเอ็มอี ก็ถือเป็นเครื่องยนต์การเติบโตของโลก สามารถคิดได้เป็นสองในสามของการจ้างงานทั้งหมด โดยร้านค้าขนาดเล็กประมาณ 180 ล้านแห่งทั่วโลกมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า 4.5 พันล้านคนในทุกวัน

และทุกๆ วัน ผู้บริโภคหลายล้านคนจะมีการซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจากร้านค้าอิสระ ร้านค้าปลีก และแผงขายของ หรือผู้ประกอบการรายย่อยที่ทำการขายตามท้องถนนหรือตามบ้าน ความสำเร็จของเอสเอ็มอีในห่วงโซ่คุณค่าการค้าปลีกของเราเชื่อมโยงโดยตรงกับความสำเร็จของยูนิลีเวอร์เอง และเราเชื่อว่าการช่วยสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเติบโตได้นั้น จะถือเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมที่ส่งผลไปไกลกว่าห่วงโซ่คุณค่าของเราได้ ทำให้ทั้งชุมชนเกิดความยุติธรรม เจริญรุ่งเรือง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

การสนับสนุนเอสเอ็มอีจึงเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราที่จะช่วยสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมและครอบคลุมมากขึ้นโดยการยกระดับมาตรฐานการครองชีพในห่วงโซ่คุณค่าของเรา สร้างโอกาสผ่านความเท่าเทียม ความหลากหลาย เป็นการเตรียมผู้คนให้พร้อมสำหรับอนาคตของการทำงาน

ยูนิลีเวอร์กับการสนับสนุนเอสเอ็มอี

การทำงานโดยตรงกับผู้ขายเพื่อสร้างทักษะจำเป็น

ยูนิลีเวอร์เข้าใจถึงความสำคัญของการบ่มเพาะช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภค และโอกาสในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพของผู้คนและชุมชน แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางการดำเนินธุรกิจมาหลายปีแล้ว แต่ผู้ค้าปลีกจำนวนมากยังไม่เคยได้รับการฝึกอบรมทักษะการจัดการธุรกิจหรือทักษะด้านการเงินต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาและของเราเติบโต เราจึงสนับสนุนและพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ที่สร้างทักษะทางธุรกิจและการเงินให้แก่กลุ่มเจ้าของร้านและผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อปลดล็อกศักยภาพของพวกเขาให้เติบโตยิ่งขึ้น

สร้างการเข้าถึงบริการทางการเงิน

การช่วยให้ผู้ค้าปลีกเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาเพิ่มรายได้ ปรับปรุงการควบคุมทางการเงิน และสร้างความยืดหยุ่นในการรับมือกับแรงกระแทกและความเสี่ยง โดยการให้การเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นขั้นตอนสำคัญในการบรรลุความคืบหน้าในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติหลายประการด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเข้าถึงบริการทางการเงินจะขจัดอุปสรรคที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถมีส่วนร่วมในภาคการเงินได้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมให้ผู้คนใช้บริการทางการเงินที่เหมาะสม ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้

การเปิดบัญชีธนาคารง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเก็บเงินและจัดการการชำระเงินได้นั้นเปิดประตูสู่บริการที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น สินเชื่อหรือประกันภัย แต่ตามข้อมูลของธนาคารโลกนั้นยังมีผู้คนวัยผู้ใหญ่กว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนประชากรที่ยังคงไม่มีบัญชีธนาคาร ยูนิลีเวอร์จึงกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรในโครงการริเริ่มต่างๆ ที่ให้ความรู้และสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินและปลดล็อกการเข้าถึงสินเชื่อและบริการทางการเงิน

การแบ่งปันเทคโนโลยีดิจิทัล

ยูนิลีเวอร์กำลังขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอีรายย่อย เพื่อทำให้การชำระเงินในห่วงโซ่อุปทานระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้จัดจำหน่ายเป็นดิจิทัล ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกเอสเอ็มอีสามารถชำระเงินให้กับผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ได้โดยตรงจากมือถือ

กลไกนี้ทำให้ผู้ค้าปลีกไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินสดอีกต่อไป และจากยอดขาย ผู้ค้าปลีกยังสามารถรับผลิตภัณฑ์ของเราด้วยเครดิตได้อีกด้วย ทำให้พวกเขาสามารถขยายข้อเสนอและเพิ่มยอดขายได้เมื่อขาดเงินทุนหมุนเวียน

หัวใจสำคัญของความทะเยอทะยานของเราคือแรงผลักดันที่จะสนับสนุนเอสเอ็มอีให้เข้ามาสู่แพลตฟอร์มการพาณิชย์ดิจิทัลที่เรียกว่า 'eB2B' มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจและมีส่วนร่วมกับเราและผู้จัดจำหน่ายได้ดีขึ้น โดยรีเบคก้า มาร์มอต (Rebecca Marmot) หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ได้กล่าวไว้ว่า

"การเข้าถึงดิจิทัลและการเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายเอสเอ็มอีของเรา รวมถึงเป็นส่วนสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติอีกด้วย"

ตัวอย่างโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอีจากยูนิลีเวอร์

Kabisig eSummit: การสนับสนุนเจ้าของร้านค้าขนาดเล็ก

โปรแกรม Kabisig eSummit (คาบิซิก อีซัมมิท) ของยูนิลีเวอร์ในฟิลิปปินส์ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปลดล็อกศักยภาพของร้านค้าขนาดเล็กแบบ 'ครอบครัว' ย้อนไปในช่วงแรกของการเกิดโควิด-19 การล็อกดาวน์ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมการฝึกอบรมแบบพบหน้ากันที่นำเจ้าของร้านและผู้จัดจำหน่ายมารวมกันได้ ดังนั้นเราจึงใช้เฟซบุ๊ก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มและแชทบอทในการออกแบบเส้นทางการเรียนรู้เพื่อสอนทักษะต่างๆ เช่น การควบคุมสต๊อก การจัดการการเงิน เทคนิคการขาย และการบริการลูกค้า ซึ่งในปีพ.ศ. 2564 โปรแกรม Kabisig eSummit (คาบิซิก อีซัมมิท) ของเราเข้าถึงเจ้าของร้านมากกว่า 80,000 ราย ซึ่งประมาณ 90% เป็นผู้หญิง โดยสามารถเข้าถึงการฝึกอบรมและคำแนะนำได้

โปรแกรมผู้ประกอบการรายย่อยที่ Shakti

โครงการ Shakti (ชักติ) ของเราในอินเดียเป็นโมเดลที่ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จมากที่สุดของเรา ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นผู้หญิงผ่านการเข้าถึงการฝึกอบรมและการสนับสนุน ซึ่งในทางกลับกันจะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตมากขึ้น

ปัจจุบัน ผู้หญิงมากกว่า 190,000 คนจากชุมชนชนบทที่ยากจนเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการจัดจำหน่าย Shakti ของเราในอินเดีย โดยนำแบรนด์ของเราไปสู่ผู้บริโภคที่เข้าถึงได้ยากในขณะที่สร้างรายได้ให้กับตนเองและชุมชนของพวกเขา ด้วยความรู้ทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับพื้นฐานของโภชนาการและสุขอนามัย และกลายเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในหมู่บ้านของพวกเขา จน Shakti กลายเป็นโมเดลของเราในการเข้าถึงผู้บริโภคในชนบทที่มีรายได้น้อยในตลาดกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ โดยเรากำลังปรับตัวในระดับต่างๆ ทั่วโลก ให้เหมาะกับสภาพท้องถิ่นและสำรวจแนวคิดใหม่ๆ ด้วยประสบการณ์ของเราในอินเดียเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นเราได้มีการเปิดตัวโปรแกรมที่เกี่ยวข้องในหลายประเทศ รวมถึงเอธิโอเปีย ไนจีเรีย กานา อียิปต์ ศรีลังกา ปากีสถาน บังกลาเทศ และโคลอมเบีย

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Shakti

ยูนิลีเวอร์กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง

ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเอสเอ็มอีให้เข้าถึงทักษะ การเงิน และเทคโนโลยี ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Shakti (ชักติ) และ โครงการ Kabisig eSummit (คาบิซิก อีซัมมิท) เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับเครือข่ายผู้ค้าปลีกเอสเอ็มอีหลายล้านรายของเรา

เพราะในทุกๆ วัน ผู้บริโภคหลายล้านคนจะมีการซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจากร้านค้าอิสระ ร้านค้าปลีก และแผงขายของ หรือจากผู้ประกอบการรายย่อยที่ขายของตามท้องถนนหรือตามบ้านเรือนต่างๆ ดังนั้นความสำเร็จของเอสเอ็มอีในห่วงโซ่คุณค่าการค้าปลีกของเราจึงเชื่อมโยงโดยตรงกับความสำเร็จของเราเอง และยูนิลีเวอร์เชื่อว่าการช่วยให้เอสเอ็มอีเติบโตได้นั้น เราสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมที่แผ่ขยายออกไปนอกห่วงโซ่คุณค่าของเรา ทำให้ชุมชนโดยรวมมีความยุติธรรม เจริญรุ่งเรือง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น