ยูนิลีเวอร์และ Net Zero: เส้นทางสู่การเป็นองค์กรที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอน

ทำความรู้จัก Net Zero Emission คืออะไร

Net Zero Emission หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์นั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยจากการทำกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์อยู่ในภาวะสมดุลเมื่อเทียบกับการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก

ซึ่งทำให้องค์กรผู้ผลิตต่างๆ ต้องคำนึงถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ต้นทางการผลิต การเลือกใช้แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงการผลิต ไปจนถึงปลายทางของการใช้สินค้าที่เมื่อไปถึงมือผู้บริโภคแล้ว การใช้สินค้าต่างๆ เหล่านั้นจะต้องไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก หรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตัวอย่างความก้าวหน้าด้าน Net Zero ของยูนิลีเวอร์ประเทศไทย

การปรับสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เพราะฟองจากน้ำยาล้างจานในครัวเรือนมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยูนิลีเวอร์เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ เราจึงตั้งใจพัฒนา “ซันไลต์ พลัส” สูตรใหม่ ที่ใส่ใจผู้บริโภค พร้อมมอบประสบการณ์การล้างจานที่เหนือระดับและประสิทธิภาพขจัดคราบมัน ให้ทุกจานสะอาด ไร้คราบกวนใจ และสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม

ด้วยเทคโนโลยี แรมโน คลีน (RHAMNO Clean) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของยูนิลีเวอร์ซึ่งมีส่วนผสมธรรมชาติอย่าง “แรมโนลิพิด” (Rhamnolipid) ที่นำมาใช้เป็นสารทำความสะอาดในผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรก ให้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดจากสารสกัดธรรมชาติ ย่อยสลายได้ง่าย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มอบความมั่นใจทุกครั้งที่ล้างจาน

บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน

ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นที่จะใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลาสติก ที่สำคัญเรายังสนับสนุนนโยบาย Extended Producer Responsibility (EPR) หรือ หลักการในการขยายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของผู้ผลิตให้ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตของสินค้าและบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วให้ถูกต้องตามหลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดโอกาสการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่คุณค่า โดยยูนิลีเวอร์และซันไลต์ได้จับมือกับบริษัทผู้จัดหาวัตถุดิบในประเทศ เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ซันไลต์ซึ่งผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล (Post-Consumer Recycled Plastic - PCR) 100% เป็นเจ้าแรก สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของยูนิลีเวอร์

โรงงานเกตเวย์พลังงานหมุนเวียน 100%

เป้าหมายหลักของโรงงานเกตเวย์ที่ไม่เพียงแต่สร้างและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ผ่านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งเราภูมิใจกับความสำเร็จของโรงงานเกตเวย์ยูนิลีเวอร์ในการเป็นโรงงานพลังงานหมุนเวียน 100% (Renewable Energy) เพื่อลดการเกิดของเสียจากกระบวนการผลิต และลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด โดยภายในโรงงานเกตเวย์ของเราจะมีทั้ง พลังงานไอน้ำ พลังงานไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนอาคาร และการใช้สารทำความเย็นในโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า 100%

ยูนิลีเวอร์และวอลล์ประเทศไทย เดินหน้าปฏิบัติการดูแลโลก โดยการเปลี่ยนมาใช้รถบรรทุกควบคุมอุณหภูมิขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (Electric Vehicle: EV) ในการขนส่งไอศกรีมเป็นรายแรกในไทย ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 76% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากฟอสซิล และแน่นอนว่าไอศกรีมจะยังคงรสชาติและคุณภาพไอศกรีมในแบบวอลล์ขนานแท้ ด้วยการควบคุมอุณหภูมิภายในรถให้อยู่ระหว่าง -20 ถึง -22 องศาเซลเซียส ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดเพื่อขนส่งไอศกรีมในช่วงแรกจะมีต้นทุนที่สูงกว่าการใช้น้ำมัน แต่ยูนิลีเวอร์และวอลล์เชื่อว่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

ยูนิลีเวอร์กับเป้าหมายของ Net Zero

จากความก้าวหน้าด้าน Net Zero ในโครงการต่างๆ ที่ยูนิลีเวอร์กำลังดำเนินการอยู่นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งภายใต้แผนปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (CTAP) ใหม่ ซึ่งเป็นแผนระยะสั้นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เรากำลังดำเนินการ และสำเร็จไปแล้วกว่า 74% แน่นอนว่านอกจากนี้ยูนิลีเวอร์ยังได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวในการบรรลุ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2582 ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เราก้าวขึ้นเป็นองค์กรที่ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ยูนิลีเวอร์พร้อมสร้างมรดกแห่งความยั่งยืน

ทุกก้าวที่เรามุ่งสู่ Net Zero คือคำมั่นสัญญาต่อโลกและผู้คน เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิบัติที่ยั่งยืนที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน คำมั่นสัญญานี้เป็นหัวใจของภารกิจของเรา และเราขอเชิญทุกคนมาร่วมกันทำให้มันเป็นจริง เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและรับประกันว่าโลกของเราจะยังคงเป็นบ้านที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป การเดินทางสู่ Net Zero ของเราเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทุ่มเทต่อโลกใบนี้ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกนี้และช่วยเราสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน