ข้ามไปที่ เนื้อหา

พลาสติกล้นโลก? ยูนิลีเวอร์พามาดูวิธีการลดการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน

ที่ตีพิมพ์:

พลาสติกล้นโลก ถือเป็นปัญหาที่ได้รับการพูดถึงมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังคงต้องดำเนินแก้ไขกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป แน่นอนว่ายูนิลีเวอร์ที่เป็นองค์กรผู้ผลิตก็มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งจะมีวิธีการลงใช้พลาสติกอย่างไรบ้างนั้น ต้องตามมาดูไปพร้อมๆ กัน

ผู้หญิงแยกขยะพลาสติกเพื่อป้องกันปัญหาขยะพลาสติกทั่วโลก

ทำความเข้าใจปัญหาขยะพลาสติกทั่วโลก

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co‑operation and Development – OECD) ได้เปิดเผยว่า ขยะพลาสติกที่ถูกสร้างขึ้นทั่วโลกนั้น มีจำนวนรวมกันถึง 350 ล้านตันในปีพ.ศ. 2562 แต่กลับมีจำนวนขยะพลาสติกเพียง 9% เท่านั้นที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่

ซึ่งทำให้ขยะพลาสติกที่เหลือกว่า 17% หรือประมาณ 61 ล้านตันกลายเป็นขยะพลาสติกที่ไม่มีการจัดการที่เหมาะสม หรือ MPW (Mismanaged Plastic Waste) โดย Plastic waste คือขยะพลาสติกที่มักถูกนำไปทิ้งตามจุดต่างๆ โดยไม่มีการควบคุม หรือในบางครั้งก็ถูกนำไปเผาในที่โล่งแจ้ง หรือปล่อยทิ้งให้ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยขยะพลาสติกลงในแหล่งน้ำ จนไหลลงสู่ทะเล และใช้เวลาย่อยสลายที่ยาวนานกลายเป็นปัญหามลพิษต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นจัดการขยะพลาสติก

การวิจัยทั่วโลกแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีการดำเนินการใดๆ พลาสติกใหม่จะถูกผลิตขึ้นสองเท่า และอาจไหลลงสู่มหาสมุทรของเราเพิ่มขึ้นสามเท่าภายในปี พ.ศ. 2583 และแน่นอนว่าพลาสติกที่เราเป็นผู้ผลิตขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ เราจึงมุ่งมั่นลดปริมาณพลาสติกใหม่ที่เราใช้ และคิดค้นแนวทางในการการจัดการบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ เรายังต้องรักษาการใช้พลาสติกให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระบบวงจรหมุนเวียน ซึ่งหมายความว่าเราต้องการระบบที่ดีกว่าเดิม พัฒนากว่าเดิมในการรวบรวม ประมวลผล และนำกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ยูนิลีเวอร์ยังสนับสนุนนโยบายต่างๆ เช่น ความรับผิดชอบของผู้ผลิตที่ขยายออกไป (Extended Producer Responsibility - EPR) ซึ่งบริษัทต่างๆ จะต้องจ่ายเงินสำหรับการรวบรวมบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นคำขอหลักของ Business Coalition for a Global Plastics Treaty เราเชื่อว่าโครงการ EPR ที่ออกแบบมาอย่างดีจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางในการแก้ไขปัญหามลภาวะจากพลาสติก โครงการเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินจะถูกนำไปลงทุนในการจัดการขยะและนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ และทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องรับผิดชอบต่อการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2564 เราได้ลงนามในแถลงการณ์ต่อสาธารณะกับมูลนิธิ Ellen MacArthur ซึ่งเรียกร้องให้มีการนำนโยบาย EPR ที่ออกแบบมาอย่างดีมาใช้ โดยตระหนักว่าหากไม่มี EPR การรวบรวมและรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

จากความมุ่งมั่นในการจัดการกับพลาสติก ยูนิลีเวอร์จึงกำหนดกรอบการทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการใช้พลาสติกของเราไว้ 3 ประการ ดังนี้

  1. การใช้พลาสติกน้อยลง

    บางครั้งการเริ่มคิดค้นเกี่ยวกับการออกแบบและบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดการใช้พลาสติก โดยการลดปริมาณวัสดุในผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่กรัมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ยูนิลีเวอร์ได้พัฒนาสูตรความเข้มข้นของตัวผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น และลดน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ของเราไปแล้วถึงหนึ่งในห้าด้วยการออกแบบที่ดีขึ้น เบากว่า ใช้พลาสติกน้อยกว่า

    แน่นอนว่าเราสนับสนุนให้ผู้บริโภคคิดว่าขวดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและซักผ้าของเราเป็นเหมือน "ขวดที่ใช้ได้ตลอดชีวิต" เพื่อยืดอายุการใช้งานพลาสติกให้สามารถใช้ประโยชน์ต่อไปได้อีกนาน

  2. การเลือกใช้พลาสติกที่ดีกว่า

    ทุกครั้งที่เราจำเป็นต้องใช้พลาสติก เราจะเลือกทางที่ดีกว่าเสมอ ซึ่งในที่นี้หมายถึงพลาสติกรีไซเคิลและพลาสติกที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์กว่า 53% สามารถรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ หรือย่อยสลายได้ ซึ่งถือว่ายังน้อยกว่า 72% ของบรรจุภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของเราอย่างมาก ช่องว่างนี้จึงเป็นความท้าทายทั่วทั้งอุตสาหกรรม ที่ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานในกระบวนการรวบรวมและรีไซเคิล ยูนิลีเวอร์จึงทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นและพันธมิตรเพื่อปิดช่องว่างนี้ ไปพร้อมๆ กับการปรับใช้วัสดุและเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไป

    ยูนิลีเวอร์มีการจัดซื้อพลาสติกรีไซเคิลหลังการบริโภค (PCR) เพราะเรากำลังเพิ่มปริมาณการใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็น 22% ของปริมาณการใช้พลาสติกทั้งหมดของเรา ซึ่งทำให้เราอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุเป้าหมายในการรีไซเคิลพลาสติกอย่างน้อย 25% ภายในปี พ.ศ. 2568 และได้เพิ่มปริมาณพลาสติกรีไซเคิลหลังการบริโภค (PCR) เป็น 22% ของพอร์ตโฟลิโอบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดของเราอีกด้วย

  3. การเลิกใช้พลาสติก

    การเลิกใช้ หรือการไม่ใช้พลาสติก หมายถึงการคิดและปรับปรุงในทุกด้านใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาโมเดลธุรกิจ รวมไปถึงประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบใหม่สำหรับผู้บริโภคของเรา นอกจากนี้ยังหมายถึงการเปลี่ยนจากพลาสติกเป็นวัสดุทางเลือกอื่นๆ เช่น โลหะ กระดาษ และแก้ว

    เราต้องการนวัตกรรมใหม่ ที่กล้าท้าทายการออกแบบ วัสดุ และโมเดลธุรกิจที่มีอยู่เดิม ซึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือการคิดค้นใหม่เกี่ยวกับแนวทางของเราและปูทางไปสู่การแก้ปัญหาใหม่ๆ ด้วย เช่น รูปแบบที่นำกลับมาใช้ซ้ำและเติมซ้ำได้ ซึ่งยูนิลีเวอร์กำลังทดลองใช้นวัตกรรมเหล่านี้ที่มีการใช้ซ้ำและเติมซ้ำในรูปแบบต่างๆ มากมายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเราตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 โดยมีการดำเนินการนำร่องไปแล้วประมาณ 50 โครงการทั่วโลก ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้การเติมผลิตภัณฑ์ของเราสะดวก ราคาไม่แพง และเป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับผู้บริโภค

ตัวอย่างความสำเร็จจากยูนิลีเวอร์

วาสลีนสูตรใหม่ พร้อมบรรจุภัณฑ์ใหม่

ยูนิลีเวอร์และวาสลีน ประเทศไทย มีการอัปเกรดสูตรใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์วาสลีนทั้งหมด โดย วาสลีน เฮลธี้ ไบรท์ เป็นนวัตกรรมของวาสลีนที่ผสานสองพลังในหนึ่งเดียว ได้แก่ กลูต้าโกลว์ที่ช่วยจัดการผิวหมองคล้ำตั้งแต่ต้นตอ เข้ากับ 70X โปร-เซราไมด์ เสริมปราการผิวสตรองใสกระจายแสงใน 7 วัน ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ไม่ได้ต้องการแค่ผิวกระจ่างใส แต่ยังรวมถึงผิวแข็งแรงและสุขภาพดีจากภายใน พร้อมสานต่อความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความยั่งยืน โดยการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล (Post-Consumer Recycled Plastic - PCR) 100% และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น คาดว่าจะสามารถลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ที่อาจกลายเป็นขยะพลาสติกในอนาคตได้กว่า 500 ตันต่อปี สานต่อความมุ่งมั่นของยูนิลีเวอร์ที่ต้องการมอบคุณค่าให้กับผู้บริโภคควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความยั่งยืนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง

ซันไลต์สูตรใหม่ กับการอัปเกรดบรรจุภัณฑ์

ซันไลต์ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่กับ “ซันไลต์ พลัส” สูตรใหม่ที่ทั้งสะอาดและรักษ์โลก ยกระดับประสิทธิภาพการขจัดคราบมันด้วยสูตรพัฒนาพิเศษยิ่งกว่าที่เคย ปฏิวัติอนาคตแห่งการล้างจานด้วยเทคโนโลยี แรมโน คลีน (RHAMNO Clean) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของยูนิลีเวอร์ที่นำมาใช้เป็นสารทำความสะอาดในผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรก ให้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดจากสารสกัดธรรมชาติ ย่อยสลายได้ง่าย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มอบความมั่นใจทุกครั้งที่ล้างจาน ยิ่งไปกว่านั้น ซันไลต์ยังจับมือกับบริษัทผู้จัดหาวัตถุดิบในประเทศ เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ซันไลต์ซึ่งผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล (Post-Consumer Recycled Plastic - PCR) 100% เป็นเจ้าแรก สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของยูนิลีเวอร์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2573

การเดินทางสู่การลดขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน

ด้วยความมุ่งมั่นในการลดขยะพลาสติก (Plastic Waste) ผ่านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราได้ดำเนินการลดการใช้พลาสติกในผลิตภัณฑ์ของเราโดยการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใช้พลาสติกน้อยลง โดยยูนิลีเวอร์ได้ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยให้บรรจุภัณฑ์ของเราสามารถย่อยสลายได้และรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความยั่งยืน เพราะยูนิลีเวอร์เชื่อว่าการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนสำคัญในการลดขยะพลาสติก (Plastic Waste) และยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภค และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

กลับไปด้านบน