ข้ามไปที่ เนื้อหา

ยูนิลีเวอร์ตอกย้ำความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจ ในเวที Executive sharing : Alignment of Supply Chain Strategy with Corporate Strategy & Goal

ที่ตีพิมพ์:

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) โดยยูนิลีเวอร์ได้รับเชิญเข้าร่วมเวทีงานสัมมนา "Executive sharing : Alignment of Supply Chain Strategy with Corporate Strategy & Goal" ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ซึ่งการได้รับการยกย่องครั้งนี้ ตอกย้ำให้เห็นความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพของเรา

ยูนิลีเวอร์เข้าร่วมเวที Executive sharing: Alignment of Supply Chain Strategy with Corporate Strategy & Goal
นางสาวชู ลิม รองประธานบริหารฝ่ายซัพพลายเชนผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน

การดำเนินธุรกิจของยูนิลีเวอร์

คุณชู ลิม รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายซัพพลายเชนผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา และลาว ได้กล่าวโดยสรุปในงาน ดังนี้

ยูนิลีเวอร์เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน รวมถึงผลิตภัณฑ์โภชนาการและไอศกรีม เราขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยกำหนดแผนการเติบโต (Growth Action Plan) ขึ้น ซึ่งระบุขั้นตอนการดำเนินธุรกิจเพื่อปลดล็อกศักยภาพของเราอย่างเต็มที่และเร่งความสามารถในการเติบโตเชิงธุรกิจให้เร็วขึ้น โดยส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพ การลดความซับซ้อน และเสริมสร้างวัฒนธรรมที่สร้างผลงาน เราเชื่อว่าองค์กรที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างยั่งยืนคือองค์กรที่มีความสามารถในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ทั้งในเรื่องของความต้องการของผู้บริโภคและเทคโนโลยีใหม่ๆ

ยูนิลีเวอร์ประกอบกิจการในประเทศไทยมากว่า 90 ปี เราภูมิใจที่ได้รับพระราชทานให้เป็นช่างทำสบู่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2497 ยูนิลีเวอร์ได้เติบโตอย่างมั่นคงจนกลายมาเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับหนึ่งในประเทศไทย ที่ทำการผลิตผลิตภัณฑ์กว่า 2,000 รายการ โดย 90% ของผลิตภัณฑ์ที่ขายผลิตในประเทศไทย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าวัตถุดิบถึง 883 ล้านยูโร ที่เราซื้อจากซัพพลายเออร์มากกว่า 1,500 รายของเรา เราภาคภูมิใจที่ได้รับการยกย่องเป็น หนึ่งใน Global Supply Chain Top 25 จากรายงานของ Gartner เป็นเวลาติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความเป็นผู้นำในด้านซัพพลายเชนอย่างแท้จริง

Ms Chu Lim speaking on stage

ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน

กลยุทธ์ของเราคือการมีห่วงโซ่อุปทานที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพครอบคลุมการผลิต การขนส่ง และคลังสินค้า

ในด้านการผลิตของเรา เรามีการวัดประสิทธิภาพการผลิตและการใช้ทรัพยากรเป็นประจำทุกปี ซึ่งเราทำการลงทุนในโรงงานของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการผลิต เราออกแบบเครือข่ายซัพพลาย เพื่อวางแผนเส้นทางการขนส่งวัตถุดิบเข้าสู่การผลิต จัดส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าและส่งมอบให้กับลูกค้าของเราให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสียมากที่สุด เราออกแบบเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและเฉพาะตัว เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ล่าสุดแก่ผู้บริโภคของเรา มีการประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติ และมีความยืดหยุ่นในการตัดสินใจว่าจะผลิตเองหรือจ้างซัพพลายเออร์ผลิตให้เรา

ในด้านการขนส่งและคลังสินค้าของเรา เราออกแบบเครือข่ายโลจิสติกการขนส่งเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากการจัดส่งแต่ละครั้งของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราทำการส่งมอบหลายจุดในเส้นทางการจัดส่งของเราอย่างแม่นยำที่สุด เช่น ลดจำนวนการขนส่ง เพิ่มจำนวนบรรทุกของต่อการขนส่ง เพิ่มให้มีการส่งสินค้าโดยตรงมากขึ้น โดยสินค้าจะถูกส่งโดยตรงจากคลังสินค้าของเราไปยังลูกค้าปลายทาง โดยไม่ผ่านศูนย์กระจายสินค้าซึ่งช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บรักษาสินค้า

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในห่วงโซ่อุปทาน

การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญของกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานของเรา เราได้ลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทาน โดยเราได้ดำเนินการใช้โซลูชันดิจิทัลจำนวนมาก เช่น การจัดกระบวนการด้วยหุ่นยนต์ (robotic process automation) การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (predictive analytics) และเทคโนโลยีบล็อกเชน และเรายังลงทุนในการเสริมทักษะของพนักงานของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พวกเขามีความสามารถในการจัดการเครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนี้ ช่วยเพิ่มศักยภาพการมองเห็นภาพรวมการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทานแบบตามเวลาจริงและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ตัวอย่างการผสานการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการผลิตของเรา:

  • ระบบควบคุมที่มีเครื่องมือดิจิตอลและความสามารถในการ สร้างแบบจำลองเสมือนของระบบจริงเพื่อปรับปรุงความแม่นยำและคาดการณ์สิ่งที่เราไม่รู้เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างการผลิตที่เหมาะสมที่สุด
  • การจัดการประสิทธิภาพที่เชื่อมต่อกันอย่างมากผ่านการมองเห็นข้อมูลตามเวลาจริงแบบเต็มรูปแบบ และไม่มีการใช้กระดาษ
  • การลดการใช้พลังงานภายในโรงงานของเราผ่านการดำเนินงานแบบไม่สัมผัส ใช้ AI และการดิจิทัลเพื่อการจัดการคลังสินค้าโดยไม่ต้องใช้คน
  • การควบคุมคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์และ AI เพื่อให้แน่ใจในมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการกำจัดของเสียเป็นศูนย์
การสร้างความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของเรา โดยความยั่งยืนเป็นหนึ่งแผนการดำเนินการเพื่อการเติบโต (Growth Action Plan) ของเรา โดยให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพอากาศ ธรรมชาติ พลาสติก และชีวิตความเป็นอยู่

เรามีประวัติอย่างยาวนานในการเป็นผู้นำธุรกิจที่มีรับผิดชอบ และความยั่งยืนยังคงเป็นส่วนสำคัญของวิธีการทำธุรกิจของเราตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างผลสำเร็จจากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของเราได้แก่

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการของเราลง 74%
  • ของเสียที่เป็นขยะอันตรายจากโรงงานของเราไปหลุมฝังกลบเป็นศูนย์
  • 79% ของวัตถุดิบทางการเกษตรของเราได้มาจากแหล่งเพาะปลูกที่ยั่งยืน
  • 53% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รีไซเคิลได้ หรือย่อยสลายได้
  • 700 ล้านคนได้รับประโยชน์จากความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีและจากการสร้างความมีส่วนร่วมของชุมชนที่เราดำเนินการอยู่
  • 52% ของผลิตภัณฑ์ของเราส่งมอบคุณค่าทางโภชนาการเชิงบวก
ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ

การเข้าร่วมงาน Executive sharing : Alignment of Supply Chain Strategy with Corporate Strategy & Goal ของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นเลิศของเราในการดำเนินธุรกิจทั้งห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามข่าวสารการดำเนินธุรกิจของยูนิลีเวอร์เพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์และช่องทางอื่นของเรา

กลับไปด้านบน