ในยุคที่ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แบรนด์ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง การเข้าใจความต้องการและความชอบของผู้บริโภคมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ยูนิลีเวอร์ใช้ AI และเทคโนโลยีมาเปลี่ยน data เป็นข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคพร้อมกับการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
การใช้ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค
ที่ยูนิลีเวอร์ กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราเริ่มต้นโดยมุ่งเน้นที่การทำความเข้าใจผู้บริโภคของเราเสมอ เราทำการวิเคราะห์เพื่อเข้าใจและคาดการณ์ความต้องการและความชอบที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค เพื่อกำหนดพอร์ตโฟลิโอและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ต่างๆ วิธีการเชิงกลยุทธ์นี้เสริมสร้างชื่อเสียงของยูนิลีเวอร์ในฐานะผู้นำในตลาดประเทศไทยมาตลอด
“ความมุ่งมั่นของเราในการทำความเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งทำให้เราสามารถนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าว “ด้วยการใช้ AI และเทคโนโลยีมาเปลี่ยน data เป็นข้อมูลเชิงลึก เราสามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดและและเชื่อมโยงกับความต้องการและความชอบของผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ”
การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์
ตลอดกระบวนการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ เราใช้วิธีการต่างๆ มากมายเพื่อทำให้แน่ใจว่าเราเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง เพื่อสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีความเหนือชั้นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ยกตัวอย่างพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการนำนวัตกรรมมาใช้ ตั้งแต่โซลูชันการทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ เราคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวังและพึงพอใจ
ตัวอย่างเช่น การเปิดตัว “ซันไลต์ พลัส” ด้วยเทคโนโลยี แรมโน คลีน แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของเราต่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพ นวัตกรรมน้ำยาล้างจานนี้ใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่ให้การขจัดคราบไขมันที่เหนือกว่า นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% สอดคล้องกับเป้าหมายของยูนิลีเวอร์ในการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2573
“ที่ยูนิลีเวอร์ นวัตกรรมไม่ใช่แค่การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นการสร้างโซลูชันที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้บริโภคของเรา เป้าหมายของเราคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหนือชั้นทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความยั่งยืน เราทำการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้บริโภคก่อนที่จะวางจำหน่าย” นายอันชุลเน้นย้ำ
อีกหนึ่งตัวอย่างคือผลิตภัณฑ์ซักผ้า “บรีส สูตรป้องกันสีตก” ที่ป้องกันการถ่ายเทสีระหว่างการซัก สูตรใหม่นี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ที่มองหาผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ลดความยุ่งยาก ซักผ้ารวมกันได้ในถังเดียวช่วยประหยัดเวลาในการแยกผ้าก่อนซัก ด้วยพลังจากเทคโนโลยีป้องกันสีผ้าตกใส่กัน ให้ผ้าสีแลดูสดใส ซักสะดวกสบายง่ายกว่าที่เคย พร้อมทั้งยังคงมอบประสิทธิภาพการทำความสะอาดเหนือระดับ ขจัดคราบหนัก ลดกลิ่นอับ และมอบกลิ่นหอมสดชื่นแนวใหม่ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาที่พบบ่อยของผู้บริโภค แต่ยังเพิ่มความสะดวกสบาย และสนับสนุนความมุ่งมั่นของยูนิลีเวอร์ต่อความยั่งยืนโดยลดความจำเป็นในการซักหลายรอบ
สร้างมูลค่าธุรกิจด้วยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและนวัตกรรม
วิสัยทัศน์ของเราสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมุ่งเน้นไปที่การทำให้กระบวนการทำงานง่ายขึ้น หาวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมและเพิ่มความพึงพอใจของผู้บริโภค และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
“การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นกุญแจสำคัญในกลยุทธ์ของเรา” นายอันชุลกล่าว “ด้วยการปรับปรุงกระบวนการของเราให้คล่องตัวด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกในทุกการตัดสินใจ เราสามารถให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการทำโฆษณาแต่ยังรวมถึงแนวทางกลยุทธ์การจัดจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายในช่องทางที่ผู้บริโภคต้องการ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น”
การเดินทางสู่ความเป็นเลิศ
ที่ยูนิลีเวอร์ แนวทางของเราในการใช้ข้อมูลเชิงลึกเรื่องความต้องการของผู้บริโภคและการขับเคลื่อนนวัตกรรมเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการเดินทางสู่ความเป็นเลิศของเรา เราจะยังคงยึดมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“ความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจาก 98% ของ 25 ล้านครัวเรือนในประเทศไทยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์เป็นประจำ ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่ครอบคลุมกว่า 30 แบรนด์ที่เชื่อถือได้ เราจะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมและเป็นผู้นำต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่ายูนิลีเวอร์ยังคงเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้และเป็นที่ต้องการของครัวเรือนทั่วประเทศไทย” นายอันชุลสรุป