ในรอบหลายปีที่ผ่านมา Digital Transformation ได้กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่หลายๆ องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญกันมากขึ้น เพราะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมกับองค์กร ทำให้ผลลัพธ์ของการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังสงสัยว่า Digital Transformation คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับองค์กรยุคใหม่ ยูนิลีเวอร์รวมคำตอบไว้แล้วนี่ที่
Digital Transformation คืออะไร?
Digital Transformation หรือ DX หมายถึง การนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้หรือประยุกต์ให้เข้ากับการทำงานในองค์กร โดยนำมาใช้เป็นรากฐานของการทำงานเพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางหรือเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังตัวอย่างในองค์กรชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนวิธีบันทึกข้อมูลแบบดั้งเดิมมาเป็นรูปแบบดิจิทัลบนที่ทำงานผ่านระบบ Cloud Server เพื่อให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมการทำงานในรูปแบบต่างๆ เช่น Remote Working หรือ Hybrid Working ให้มีประสิทธิภาพและช่วยย่นระยะเวลาการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
การปรับตัวของคนทำงานยุคใหม่ Reskill & Upskill ที่ต้องมี
เมื่อใดก็ตามที่โลกหมุนไปข้างหน้า ผู้คนก็จำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ ดังเช่นโลกของการทำงานในปัจจุบันที่ถูกขับเคลื่อนไปด้วยกระบวนการทำงานแบบ Digital Transformation ส่งผลให้คนทำงานในปัจจุบันต้องรู้จักเรียนรู้รูปแบบการทำงานใหม่ๆ ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นการรู้จักเตรียมตัวเองให้พร้อมทั้งเรื่องของ Upskill และ Reskill จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของพนักงานยุคใหม่ทุกคน
โดย Upskill คือ การเพิ่มพูนหรือพัฒนาทักษะของตนเองให้มีการยกระดับความรู้ความสามารถ เปรียบได้กับการติดอาวุธที่จะช่วยส่งเสริมผลลัพธ์การทำงานให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น ส่วน Reskill คือ การรู้จักเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด เรียกว่าเป็นการสร้างทักษะขึ้นมาให้ตอบโจทย์กับการทำงานโดยเฉพาะนั่นเอง
ตัวอย่างการใช้ AI กับงานการตลาด จากยูนิลีเวอร์
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวเครื่องมือ Digital Tools ใหม่ๆ ไปจนถึงการพัฒนาสูตรผงซักฟอกคาร์บอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทุกกระบวนการและทุกขั้นตอนการทำงานของยูนิลีเวอร์ ผ่านการทำงานจากผู้เชี่ยวชาญ R&D ที่มีการปรับใช้ Digital Transformation ในกระบวนการทำงานในทุกๆ ขั้นตอน
ลองมาดูตัวอย่างที่น่าสนใจจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของยูนิลีเวอร์กัน
- 1. นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาผิวแห้ง มอบผิวชุ่มชื้น
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI เราได้ทำการวิจัยไมโครไบโอม ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กว่า 100 ล้านล้านล้านตัวทั่วร่างกายของเรา และค้นพบบทบาทของมันในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยรักษาสุขภาพผิว ทำให้ยูนิลีเวอร์รู้กุญแจสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง คือการรักษาจำนวนไมโครไบโอมของผิวหนังและเซราไมด์ของผิวหนัง จึงทำให้โดฟ พอนด์ส และวาสลีนนำจุดนี้ไปสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
- 2. สเปรย์ระงับกลิ่นกาย ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวจาก AI
แอ๊กซ์ เอไอ บอดี้สเปรย์ได้รับการพัฒนาโดยใช้ข้อมูลกว่า 46 เทราไบต์ ค้นหาส่วนผสมกว่า 6,000 รายการ และส่วนผสมน้ำหอมกว่า 3.5 ล้านกลิ่น เพื่อสร้างกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้สเปรย์ระงับกลิ่นกายรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาเพื่อดึงความสนใจของคน Gen Z ในโลกที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี และกระตุ้นความตื่นเต้นให้กับกลุ่มตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
เราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยการร่วมมือกับบริษัทน้ำหอมสัญชาติสวิสอย่าง Firmenich ที่เข้ามาช่วยผสมผสานการสร้างแบบจำลอง การคิดค้นสูตร และการเพิ่มประสิทธิภาพ เข้ากับความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทรนด์ผู้บริโภคของแอ๊กซ์ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- 3. เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อการปฏิวัติวงการความงาม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรารวบรวมและพัฒนาเทคโนโลยีกว่า 40 รูปแบบ เพื่อรองรับธุรกิจความงามที่กำลังขยายตัว ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมล่าสุดของเราคือ "Hourglass Red 0." ที่ใช้วัตถุดิบวีแกนทางเลือก แทนที่เม็ดสีแดงที่ใช้กันมากที่สุดในเครื่องสำอางสี ซึ่งก็คือ สีแดงคาร์มีนที่ได้มาจากแมลงปีกแข็งตัวเมียและต้องใช้แมลงถึง 1,000 ตัวต่อลิปสติก 1 แท่ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ของยูนิลีเวอร์ใช้เวลากว่าสามปี ในการคิดค้นและจัดรูปแบบการผลิตใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะดูแลสวัสดิภาพของสัตว์ต่างๆ
- 4. Machine Learning สู่นวัตกรรมการดูแลเสื้อผ้า
ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม คอมฟอร์ท อัลติเมท แคร์ ใช้เทคโนโลยีจดสิทธิบัตรที่ปกป้องเส้นใยเสื้อผ้า จึงคงสีและรูปทรงเหมือนใหม่ไว้ได้นานถึง 20 ครั้ง แต่เนื่องจากความแปรปรวนและคุณภาพของน้ำแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ดังนั้นทีม R&D ของคอมฟอร์ทจึงออกแบบการทดลองโดยใช้ Machine Learning หรือสมองของ AI เพื่อหาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดโดยอิงตามสภาพท้องถิ่นในแต่ละตลาด หากจำเป็นต้องปรับแต่งสูตร ก็สามารถป้อนข้อมูลและปรับเปลี่ยนได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
- 5. การปรับคุณภาพทางโภชนาการอาหาร ด้วยนวัตกรรมดิจิทัล
ความอร่อยของอาหารเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือการผลิตอาหารที่อร่อย แต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการ และดีต่อสุขภาพ ตอนนี้ยูนิลีเวอร์กำลังปรับปรุงคุณภาพทางโภชนาการของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของเราทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยการลดน้ำตาล เกลือ และไขมันอิ่มตัว และยังใส่สารอาหารเสริมเข้าไปด้วย
โดยเป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่เราใช้ความสามารถของนวัตกรรมดิจิทัลมาช่วยประเมินระดับสารอาหารและความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งสามารถประเมินข้อมูลได้มากกว่า 600,000 ชิ้น เกี่ยวกับส่วนผสมและสูตรอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราทั่วโลกในเวลาอันสั้น
- 6. ตู้แช่ไอศกรีมอัจฉริยะ เพื่อความสุขของคนรักไอศกรีม
ในธุรกิจไอศกรีมสำหรับซื้อทานนอกบ้าน ที่มีนับล้านตู้แช่ทั่วโลก การใช้ตู้แช่แข็งไอศกรีมอัจฉริยะจะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งและรับทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อในแต่ละพื้นที่ต้องการ ทั้งยังมีการแจ้งเตือนเมื่อสต๊อกของผลิตภัณฑ์ในตู้เหลือน้อย เพื่อแนะนำปริมาณที่จะสั่งซื้อใหม่ จากนั้นระบบจะจัดส่งสิ่งเหล่านี้โดยอัตโนมัติ ถือเป็นการอำนวยความสะดวกทั้งร้านค้าในการสั่งซื้อ และช่วยให้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าได้อย่างรวดเร็ว