รู้จักกับภาวะโลกร้อน จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ภาวะโลกร้อนที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาผลาญเชื้อเพลิง น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ในครัวเรือน โรงงาน และการขนส่ง ซึ่งการที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้นั้น เริ่มได้จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions ที่เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในปริมาณที่เท่ากับก๊าซเรือนกระจกที่จะถูกดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศ เมื่อไม่มีก๊าซเรือนกระจกส่วนเกิน ก็จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้นั่นเอง
ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและทำความสะอาดของยูนิลีเวอร์ กับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ใน Climate Week NYC ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ร่วมมือกับยูนิลีเวอร์ เปิดตัวรายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับนโยบายการจัดการกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ซักรีด และผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในชีวิตประจำวัน
เพราะผลิตภัณฑ์ซักผ้าหรือล้างจาน สารซักล้างที่ไหลลงท่อระบายน้ำจะสลายตัวและปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ วิธีเดียวที่จะกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ได้คือ การแทนที่ส่วนผสมของสารประกอบที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยสารที่สามารถหมุนเวียนได้ จึงเป็นความท้าทายที่คู่ค้าของเราจะต้องจัดหาส่วนผสมที่ยั่งยืนในปริมาณที่มากขึ้นและต้นทุนน้อยลงก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ในวงกว้างได้
โดยเฉพาะน้ำมัน จาระบี และดิน ที่ต้องใช้สารลดแรงตึงผิวเพื่อสร้างเนื้อโฟมในการสลายคราบมันเหล่านี้ และสารลดแรงตึงผิวเหล่านี้ที่เป็นตัวการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นการจะลดภาวะโลกร้อนได้ เราจึงต้องหาคาร์บอนที่ยั่งยืนจากแหล่งที่หมุนเวียนได้หรือรีไซเคิลได้ เพื่อมาแทนที่สารลดแรงตึงผิว
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะหลักของรายงานคือการให้ผู้กำหนดนโยบายทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั่วทั้งอุตสาหกรรม ภาคประชาสังคม ชุมชนการเงิน นักวิจัย และผู้บริโภค เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการเพิ่มการใช้คาร์บอนที่ยั่งยืนเป็นวัตถุดิบตั้งต้น
สำหรับยูนิลีเวอร์แล้ว เกือบ 60% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราภายในขอบเขตเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์นั้น มาจากวัตถุดิบและส่วนผสมที่เราซื้อ และการค้นหาทางเลือกอื่นนอกเหนือไปจากสารเคมีที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งนี่จะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราเพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี พ.ศ. 2582 โดยในตอนนี้เรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าเพื่อลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ ใน scope 3 ด้วยนโยบายต่างๆ มากมายดังนี้
- 1. สร้างเครื่องผลิตฟองโฟมรักษ์โลก
ยูนิลีเวอร์ทำงานร่วมกับ Evonik บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีชั้นนำของโลกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อพัฒนา Rhamnolipids ซึ่งเป็นสารลดแรงตึงผิวทางชีวภาพประสิทธิภาพสูงที่ผลิตโดยใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก มีศักยภาพในการช่วยลดผลกระทบด้านคาร์บอนของอุตสาหกรรมการทำความสะอาด เนื่องจากสามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้อย่างสมบูรณ์และมีวงจรชีวิตที่มีผลกระทบต่ำ
ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 ถือเป็นครั้งแรกของโลกในการปฏิวัติวงการน้ำยาล้างจาน ด้วยสารสร้างฟองโฟมนี้
และเราก็ยังทำงานร่วมกับ Evonik อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบุกเบิกไปทั่วโลก- 2. ขยายการใช้พืชทางเลือก สู่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
ในส่วนนี้ ยูนิลีเวอร์ร่วมงานและร่วมทุนกับ Genomatica ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีชีวภาพและความยั่งยืน เพื่อขยายและจำหน่ายทางเลือกอื่นแทนน้ำมันปาล์มและส่วนผสมในการทำความสะอาดจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เนื่องจากความต้องการน้ำมันปาล์มที่มาจากแหล่งยั่งยืนเพิ่มขึ้น การร่วมทุนนี้จึงมีเป้าหมายที่จะส่งมอบน้ำมันปาล์มทางเลือกที่มาจากแหล่งที่มีความรับผิดชอบเพิ่มเติมให้กับตลาดด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อการสร้างผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวที่ยั่งยืน
ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานและซักผ้า สะอาด รักษ์โลก ช่วยลดภาวะโลกร้อน
ยูนิลีเวอร์ไม่หยุดพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุด ยูนิลีเวอร์ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล้างจาน “ซันไลต์ เลมอน เทอร์โบ” สูตรใหม่ที่ทั้งสะอาดและรักษ์โลก สามารถขจัดคราบฝังแน่นได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ล้างจานของยูนิลีเวอร์สูตรเดิม ด้วยเอนไซม์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และรักษ์โลกกว่าเดิมด้วยการลดการใช้สารทำความสะอาดที่มาจากปิโตรเคมี ยิ่งไปกว่านั้นยูนิลีเวอร์ยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2568 และผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2573
ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนไปใช้แหล่งคาร์บอนหมุนเวียนหรือรีไซเคิลได้ในสูตรผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการถอยห่างจากการผลิตที่พึ่งพิงเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างชัดเจน จนเกิดเป็นนโยบาย Clean Future ที่เปรียบได้กับบันไดก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่คำมั่นสัญญาของเรา ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ ดังเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2573
นางสาววรพักตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ยูนิลีเวอร์ มีความมุ่งหวังใหม่ต่ออนาคตสะอาด หรือ Clean Future ด้วยเป็นนโยบายระยะยาวและโปรแกรมนวัตกรรมอันทันสมัยโดยฝ่ายผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เพื่อเปลี่ยนวิธีการสร้าง ผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและซักผ้า ซึ่งทุกแบรนด์ของบริษัทเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดย Clean Future มีความโดดเด่นด้วยการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้ามาใช้ทั้งในส่วนของบรรจุภัณฑ์และสูตรผลิตภัณฑ์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ยูนิลีเวอร์ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและซักผ้าชั้นนำ ได้ประกาศพันธกิจและเป้าหมายว่า จะเลิกใช้คาร์บอนที่ได้จากเชื้อเพลิงฟอสซิลในสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและซักผ้า 100% แต่จะใช้คาร์บอนหมุนเวียนหรือรีไซเคิลเท่านั้น"