เมื่อปี 2562 เราประกาศพันธกรณีใหม่ที่จะลดการใช้พลาสติกใหม่ในบรรจุภัณฑ์ของเราลงครึ่งหนึ่งและจะช่วยเรียกเก็บและแปรรูปบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้ได้มากกว่าที่เราขาย … ทั้งหมดนี้ ภายในปี 2568
เรามีผลความคืบหน้าในการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลประเภท post-consumer recycled plastic หรือ PCR ที่เพิ่มขึ้น ณ ขณะนี้ ประมาณ 11% ของพลาสติกฟุ๊ตพรินต์ของเราทั้งหมด เป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล – เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเขยิบเข้าใกล้เป้าหมายที่เราวางไว้ที่จะใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อย 25% ภายในปี 2568 แบรนด์ของเราที่นำร่องไปแล้ว ได้แก่ โดฟ ซึ่งในอเมริกาเหนือและยุโรป เปลี่ยนไปใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิล 100%
เรายังเดินหน้าที่จะทดสอบโมเดลทางธุรกิจใหม่สำหรับการรีฟิล และการใช้บรรจุภัณฑ์ซ้ำ ซึ่งเรายินดีเปิดเผยผลการทดสอบนี้
ในประเด็นที่เกี่ยวกับเป้าหมายการเรียกเก็บและแปรรูปบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้ได้มากกว่าที่ขาย เรายังต้องคิดภาพใหญ่ที่นอกเหนือไปจากการผลิตของเรา เพราะบางประเทศก็มีโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บที่ก้าวหน้า ในขณะที่บางประเทศ แทบไม่มีเลย
เพื่อจัดการกับปัญหานี้โดยเฉพาะ เราจึงได้ออกแบบแผนปฏิบัติการรายประเทศและหาพันธมิตร รวมทั้งความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ รวมถึงการลงทุนโดยตรงและความร่วมมือในการเรียกเก็บและแปรรูป การเพิ่มศักยภาพโดยการซื้อพลาสติกรีไซเคิล และการสนับสนุนมาตรการความรับผิดชอบของผู้ผลิต หรือ extended producer responsibility ที่เราจ่ายเงินเพื่อเรียกเก็บบรรจุภัณฑ์ของเราโดยตรง
นี่ เป็นเพียงตัวอย่างโครงการความร่วมมือที่เราริเริ่มหรือเข้าร่วม
การพัฒนา holistic solution ในอินเดียและ ปากีสถาน
ปีนี้ที่อินเดีย (ล่วงหน้าก่อนแผนที่วางไว้ถึง 4 ปี) เราจะเรียกเก็บและแปรรูปมากกว่า 100% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกมากกว่าที่เราขาย ตั้งแต่ปี 2561 Hindustan Unilever ได้ช่วยให้มีระบบการจัดการขยะหลังการบริโภคที่ปลอดภัยมากถึง 120,000 ตัน แม้จะมีวิกฤตการณ์โควิดก็ตาม เรายังเดินหน้าที่จะเป็นพันธมิตรกับองค์กรต่างๆและได้รับการสนับสนุนด้านความร่วมมือกับเทศบาลเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บขยะในหลายๆเมือง ทั่วประเทศอินเดีย
ที่เมืองมุมไบ เราร่วมมือกับ United Nations Development Programme (UNDP) และบริษัทที่ปรึกษา Xynteo เพื่อสร้างระบบ material recovery โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการมีโซลูชั่นที่จัดการขยะแบบ end-to-end
นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในรัฐมหาราษฏระในโครงการ ‘Waste No More’ ซึ่งเป็นการสร้างหลักสูตรโรงเรียนแบบดิจิตัลที่เน้นเรื่องความสำคัญของการแยกขยะ การเรียกเก็บ และการทิ้งขยะให้ปลอดภัย หลักสูตรดังกล่าวเข้าถึงนักเรียนเกือบ 1 แสนคนระหว่างช่วงการทดลองและกำลังจะขยายไปยังรัฐอื่นๆ
นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ ปากีสถาน ยังได้ร่วมมือกับ UNDP เพื่อให้เมืองราฮิมยาร์คานเป็นเมืองปลอดขยะ โครงการริเริ่มนี้จะทดสอบทางแก้ไขปัญหาโดยการลดขยะพลาสติกและแปลงเป็นทรัพยากร วัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับการบริหารจัดการขยะพลาสติก ที่จะสามารถนำระบบไปทำซ้ำทั่วประเทศ
การลงทุนในระบบการบริหารจัดการขยะในเอเชีย
ยูนิลีเวอร์ได้ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เช่น PepsiCo, P&G และ Coca-Cola ลงเงินทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐในกองทุน the Circulate Capital Ocean Fund – กองทุนแรกของโลกที่ตั้งขึ้นมาเพื่อยับยั้งขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเล
ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนด้านการบริหารจัดการขยะและการรีไซเคิล เป้าหมายของ Circulate Capital คือการดึงดูดเงินลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐจาก institutional investment ที่จำเป็นสำหรับบริษัทที่จะยกระดับบริษัทและโครงสร้างพื้นฐานในการเรียกเก็บขยะในภูมิภาคเอเชียใต้และอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่สร้างขยะพลาสติกในทะเลอย่างมหาศาล โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานในการบริหารจัดการปัญหานี้
กองทุนดังกล่าวเป็นเงินทุนให้กับการบริหารจัดการขยะ การรีไซเคิล และ start-ups ที่ทำเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน และ ผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศอินเดีย อินโดนีเชีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เพื่อช่วยหาทางขยายและนำระบบไปทำซ้ำในที่อื่น โดยการเชื่อมเข้ากับซัพพลายเชนของบริษัทชั้นนำของโลก
หนึ่งในการลงทุนได้แก่ การทำงานร่วมกับ Recyckal บริษัทค้าขยะแห่งแรกของอินเดีย Recyckal เสนอทางแก้ไขปัญหาแบบดิจิตัลจาก end-to-end ที่เชื่อมโยง waste generators ผู้แปรรูป ผู้รีไซเคิล และเจ้าของแบรนด์ เพื่อช่วยการขนส่งขยะและการซื้อขายขยะตลอดสาย value chain ของการบริหารจัดการขยะและการรีไซเคิล
การใช้เทคโนโลยีในประเทศจีนและอินโดนีเซีย
ในจีน เราได้ร่วมมือกับ Alibaba Group เพื่อสร้างระบบรีไซเคิลที่ใช้ Al สำหรับขวดพลาสติก โครงการริเริ่ม The Waste-Free World เปิดตัวด้วยการทดลองติดตั้งเครื่องรีไซเคิล 20 เครื่องในออฟฟิศและ community space ที่กรุงเซี่ยงไฮ้และเมืองหางโจว สองเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน เครื่องดังกล่าววิเคราะห์และจำแนกประเภทพลาสติกของขวดแบบอัตโนมัติ ทำการคัดแยก และรวบรวม เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดเก็บและส่งคืนศูนย์รีไซเคิลและทำให้การใช้ซ้ำเร็วขึ้น ผู้บริโภคจะได้รับคูปองยูนิลีเวอร์และคะแนนพลังงานสีเขียวในระบบ Alipay ‘Ant Forest’ สำหรับการนำขวดหนึ่งขวดมาคืน
ในประเทศอินโดนีเซีย เราได้ช่วยเหลือชุมชนใน 18 เมือง พัฒนาระบบการจัดเก็บและซื้อขายขยะ โดยการใช้ ‘Google My Business’ แพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกผู้บริโภคในการหาธนาคารขยะที่ใกล้ที่สุดผ่าน Google Maps ณ ขณะนี้มีธนาคารขยะเกือบทั้งหมด 800 แห่งที่สามารถค้นหาได้ผ่านเครื่องมือดิจิตัลนี้ เราตั้งเป้าหมายที่จะขยายเป็น 2,000 แห่ง
เพิ่มการรีไซเคิลในอเมริการเหนือ
ในอเมริกาเหนือ เราลงทุน 15 ล้านเหรียญสหรัฐที่จะสร้างกองทุน Closed Loop Partners’ Leadership Fund เพื่อช่วยให้การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกประมาณ 60,000 ตันต่อปีเป็นไปได้ ภายในปี 2568 – จำนวนที่เท่ากับครึ่งหนึ่งของพลาสติกฟุ๊ตพริ้นท์เราในภูมิภาคนี้
กองทุนเงินร่วมลงทุนนี้ เข้าซื้อกิจการและทำให้บริษัทตลอดสาย value chain เติบโต โดยการทำงานเพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิลและรักษาขยะที่มีมูลค่าในวงจรเศรษฐกิจหมุนเวียน และออกจากหลุมฝังกลบ
การลงทุนนี้ จะช่วยกันจำนวนพลาสติกหลังการบริโภค PCR เพิ่มขึ้นสำหรับใช้ในแบรนด์ของเรา รวมถึง โดฟ Hellmann’s และ Seventh Generation ซึ่งใช้ขวด PCR 100% อยู่แล้ว – เป็นการเพิ่มการเข้าถึงวัตถุดิบพลาสติกรีไซเคิลที่แปรรูปโดยบริษัทที่ใช้เงินจากกองทุนนี้ลงทุน
เรายังสนับสนุนการออกกฎหมายว่าด้วยการรับผิดชอบของผู้ผลิตที่จะเพิ่มการลงทุนที่จำเป็นในวงกว้างจากภาคอุตสาหกรรมเพื่อปฏิรูประบบรีไซเคิล ทั้งนี้ รวมถึงการทำงานกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ผ่าน Circular Economy Accelerator เพื่อสร้างและส่งเสริมแผนสำหรับแบรนด์ที่จะสนับสนุนเงินทุนสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิล ในแคนาดา เราเข้าร่วม extended producer responsibility ในหลายๆ รัฐที่มีโปรแกรมนี้แล้ว
การสนับสนุนอาชีพเก็บขยะในแอฟริกา
ที่ไนจีเรีย เราร่วมมือกับ FCDO และ UK Aid ภายใต้โปรแกรม TRANSFORM ที่เราสนับสนุนให้มีการขยายอัตราการเก็บขยะของบริษัทเก็บขยะ Wecyclers ผ่านโมเดลการขายแฟรนไชส์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสามารถจัดตั้งธุรกิจรีไซเคิลได้ และสร้างการจ้างงาน และเพิ่มความตระหนักรู้ในชุมชนเกี่ยวกับการรีไซเคิลและความยั่งยืน ธุรกิจแฟรนไชส์จะได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ เช่น ระบบการขนส่ง การบริหารการเงิน และการวางแผนธุรกิจ
ที่เคนยา เราร่วมมือกับ Global Innovation Fund (GIF) เราทำงานร่วมกับ Mr Green Africa เพื่อสนับสนุนการขยายเครือข่ายการจัดเก็บและขีดความสามารถรวมทั้งศักยภาพในการแปรรูป ส่งผลให้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือนในเคนยา ที่บรรจุภัณฑ์ทำมาจาก 100% PCR ครั้งแรก ที่มาจากการเรียกเก็บและรีไซเคิลในประเทศ
ที่แอฟริกาใต้ เราทำงานร่วมกับ องค์กร African Reclaimers เกี่ยวกับโปรแกรมที่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของซาเล้ง – ซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังของการรีไซเคิลในชาติ เพื่อเพิ่มอัตราการเก็บสำหรับการนำมารีไซเคิลจากขยะครัวเรือนโดยการให้ความสำคัญกับระบบซาเล้ง และจ่ายเงินชดเชยพวกเขาสำหรับการทำงานและการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมในชุมชน เราสนับสนุนให้มีการนำโมเดลนี้มาผสานเข้ากับหลักการว่าด้วยความรับผิดชอบของผู้ผลิตที่ออกโดยภาครัฐ
นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมมือกับ Oxfam เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรมทักษะและเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการวิสาหกิจชุมชนที่ทำการรีไซเคิล การฝึกอบรมจะรวมถึงการบริหารธุรกิจขั้นพื้นฐาน และคู่มือการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะที่จำเป็นอื่นๆ เช่น เทคนิคการเจรจา และการสร้างความร่วมมือ