ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เราถูกบอกย้ำเสมอๆ ว่าการล้างมือด้วยสบู่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวเองจากโรคโควิด-19 และหยุดยั้งการแพร่กระจาย
ดังนั้น ลองคิดดูว่ามันจะรู้สึกอย่างไร หากต้องฝ่าฝันโรคระบาดนี้โดยที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์สบู่หรือน้ำที่สะอาด และปราศจากความหวังที่จะทำการเว้นระยะห่างได้ หรือ หาความปลอดภัยจากการแยกเดี่ยว
นี่คือโลกแห่งความจริงที่ผู้อพยพนับล้านคนทั่วโลกต้องเผชิญ หน่วยงานบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมเตือนว่าคนที่พลัดถิ่นนั้นอยู่ในกลุ่มที่เปราะบางที่สุดของสังคมและพวกเขามีความเสี่ยงสูงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังในช่วงวิกฤตครั้งนี้
นี่คือเหตุผลที่ในฐานะธุรกิจและด้วยแบรนด์ทางของเรา ยูนิลีเวอร์กำลังดำเนินการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยให้ผ่านผ่านวิกฤติ Covid-19 ซึ่งรวมถึงชีวิตของพวกเขาในอนาคต ในขณะที่เราให้ความสำคัญกับวันผู้ลี้ภัยโลก ในวันที่ 20 มิถุนายน นี่คือวิธีต่างๆที่เราสนับสนุนกลุ่มคนที่เปราะบางและต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดของโลก ...
บริจาคผลิตภัณฑ์ให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลน
ในเดือนมีนาคม เราได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์สุขอนามัยและผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่า 100 ล้านยูโรให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนทั่วโลกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองของยูนิลีเวอร์ต่อวิกฤติ Covid-19
เราได้ส่งเงินบริจาคจำนวนมากไปยังองค์กรภายใต้สหประชาชาติ ซึ่งรวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเด็กของ UN องค์การยูนิเซฟ และ UNHCR (สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ) การบริจาคให้ UNHCR ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการริจาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการบริจาคสบู่กว่า 30 ล้านก้อน รวมถึงเจลแอลกอฮอร์ล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อที่มือ น้ำยาฆ่าเชื้อและผงซักฟอก ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆเหล่านี้ สามารถเข้าถึงการดำเนินงานของ UNHCR มากกว่า 40 แห่งทั่วโลก เพื่อช่วยพัฒนาสุขอนามัยและชะลออัตราการแพร่กระจายของไวรัสในผู้ลี้ภัยและชุมชนในประเทศต้นทางที่ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่
ตั้งแต่การแพร่ระบาดเกิดขึ้น ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ได้ถูกชะลอและหยุดชะงัก ทำให้หน่วยงานต่างๆ เช่น UNHCR, UNICEF และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอื่น ๆ ต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อปกป้องผู้ลี้ภัยจากไวรัส
นอกจากนี้เรายังภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรอันยาวนานกับองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์โดยตรงเพื่อช่วยจัดหาอุปกรณ์ด้านสุขอนามัยที่สำคัญให้กับชุมชนกลุ่มเปราะบางเพื่อให้พวกเขาสู้กับไวรัส
ส่งเสริมการเข้าถึงสุขอนามัย
เราได้เปิดตัวพันธมิตรด้านสุขอนามัยและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม Hygiene and Behaviour Change Coalition (HBCC)โดยร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศของรัฐบาลอังกฤษ (DFID) เพื่อรับมือกับ การแพร่กระจายของ coronavirus หลายโครงการภายใต้ความร่วมมือนี้ มีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ เช่นผู้พลัดถิ่นภายในถิ่นฐานนั้นๆ
ส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ ได้แก่ ในบังคลาเทศที่เรากำลังทำงานร่วมกับ UNHCR และคณะกรรมการช่วยเหลือระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับ Covid-19 ในค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก คอกส์บาร์ซาร์มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเกือบ 1 ล้านคนที่หลบหนีการประหัตประหารในพม่าและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการที่อยู่ในสภาพที่แออัดทำให้การควบคุมไวรัสเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
พันธมิตรจำนวนมากในความร่วมมือครั้งนี้ ได้ใช้โครงการเปลี่ยนพฤติกรรมที่พัฒนาโดยสบู่ยี่ห้อ Lifebuoy ของ ยูนิลีเวอร์ โดยร่วมมือกับ Oxfam ภายใต้ชื่อโครงการ 'มือวิเศษของแม่' ซึ่งเป็นโครงการเปลี่ยนพฤติกรรมการล้างมือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับสภาวะฉุกเฉินและถูกนำไปใช้ในการตั้งถิ่นฐานของชาวซีเรียในประเทศเลบานอนจำนวนกว่า 30,000 คน ร่วมกับ UNHCR ซึ่งโครงการนี้กำลังได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของความพยายามของเราในการตอบสนองต่อ coronavirus ผ่าน HBCC
การสร้างอนาคตที่สดใส
ยูนิลีเวอร์เป็นสมาชิกของหุ้นส่วน TENT ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ซึ่งให้โอกาสผู้ลี้ภัยในการทำงาน เราใช้เสียงของเราในการสนับสนุนสิทธิในการทำงานของผู้ลี้ภัย.
ในประเทศมาเลเซีย เรากำลังทำงานร่วมกับ TENT และ UNHCR เพื่อส่งเสริมให้รัฐบาลให้สิทธิผู้ลี้ภัยในการทำงาน โดย Ben & Jerry’s แบรนด์ไอศกรีมของเรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ที่ลี้ภัยเพื่อให้สามารถมีอาชีพได้ Ben & Jerry's เปิดตัว Ice Academy ในปี 2560 โดยร่วมมือกับ TERN - เครือข่ายผู้ลี้ภัยซึ่งเป็นผู้ประกอบการ เพื่อช่วยผู้ลี้ภัยเอาชนะอุปสรรคที่ต้องเผชิญ ในช่วงเริ่มต้นประกอบการและสร้างชีวิตใหม่ได้อย่างปลอดภัย
การเข้าร่วมโครงการ Ice Academy พวกเขาสามารถเข้าถึงการฝึกอบรม การให้คำปรึกษาและการจ้างงานนอกเวลาเพื่อช่วยพัฒนาความคิดทางธุรกิจของพวกเขาได้
การเคลื่อนไหวและการสนับสนุน
แบรนด์ของเราหลายแบรนด์ กำลังพยายามช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคไวรัสและการปิดล็อคประเทศและเมืองต่าง
Ben & Jerry's ยังคงดำเนินกิจกรรมในตลาดยุโรปโดยเน้นว่า Covid-19 นั้นส่งผลกระทบต่อคนที่แสวงหาความปลอดภัยอย่างไร ซึ่งรวมถึงผู้ที่อยู่ในศูนย์กักกัน ผู้ที่อยู่ในค่ายระหว่างรอการโยกย้ายถิ่นฐาน ผู้ที่ติดอยู่ตรงชายแดนของสหภาพยุโรป และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้เนื่องจากสถานะการเข้าเมืองของพวกเรา
Ben & Jerry's มีความชัดเจนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ผู้นำทั่วโลกดำเนินการเร่งด่วน เพื่อให้ทุกคน มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรีโดยไม่มีข้อยกเว้น สามารถอ่านข้อเรียกร้อง 8 ข้อของแบรนด์ที่เป็นที่รูปธรรมได้ที่นี่
“ผู้ลี้ภัยถือเป็นกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในโลกอยู่แล้ว และพวกเขาก็มีความเสี่ยงอย่างมากในช่วงการระบาดของโรค Covid-19” เฮเลนา โดลีมอร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายความยั่งยืนกล่าว
“เราเชื่อว่าธุรกิจสามารถนำความเชี่ยวชาญที่สำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ด้านทรัพยากรและเครือข่ายต่างๆ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉิน และช่วยจัดหาการบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ เราหวังว่าเราจะสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นผ่านการสร้างความร่วมมือ ผ่านโครงการต่างๆ และผ่านการตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน โดยมุ่งหวังว่าเราจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้”
ภาพจากคณะกรรมการช่วยเหลือระหว่างประเทศ