ข้ามไปที่ เนื้อหา

“เราจะสู้โรคระบาดนี้ไปด้วยกัน” จากซีอีโอใหญ่ของ บริษัทฯ ยูนิลีเวอร์

ที่ตีพิมพ์:

เขียนโดย Alan Jope

ในฐานะบริษัทผู้ผลิตสบู่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราจะใช้พละกำลังทั้งหมดของเราทั่วโลกเพื่อร่วมกันปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนจาก COVID-19

About the author

Alan Jope

Chief Executive Officer

อลัน โจป ดำรงตำแหน่ง CEO ใหญ่ของกลุ่ม บ. ยูนีลีเวอร์ ตั้งแต่มกราคม 2562
และก่อนหน้านี้ เคยเป็นประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามและของใช้ส่วนตัว

อีกไม่นาน การระบาดของไวรัสโคโรน่าจะทำให้เราทุกคนทั่วโลกต้องเผชิญกับการสูญเสียชีวิต ความเป็นอยู่ที่ถูกทำลาย

ในขณะนี้ ผู้คนมากมายมีเรื่องราวสะเทือนใจเกี่ยวกับการล้มป่วย หรือ การเผชิญหน้ากับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่มาจากการปิดเมืองทั้งโลก เว้นแต่กิจกรรมที่มีความจำเป็น

ผมมั่นใจว่าทุกคนในยูนิลีเวอร์อยากแสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกๆ คนที่กำลังพบกับความยากลำบาก ในขณะเดียวกัน ผมขอใช้โอกาสนี้ในการแสดงความขอบคุณและความรู้สึกซาบซึ้งใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทุกๆ คนที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญในด่านหน้า เพื่อยับยั้งการระบาดของโรค COVID-19 ไม่ว่าจะเป็น หมอ พยาบาล หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง พวกเราขอแสดงความเคารพเป็นอย่างสูง

ในหลายๆ ประเทศ สถานการณ์จะย่ำแย่ลงกว่านี้ ก่อนที่จะดีขึ้น

ในสถานการณ์นี้แม้แต่บุคคลที่คิดบวกที่สุดยังต้องคิดหนัก มีสัญญาณบางอย่างที่แสดงถึงการเริ่มต้นของการระดมกำลังที่ขยายเป็นวงกว้างอย่างเร็วขึ้น เพื่อยุติวิกฤตการณ์นี้อย่างเร็วที่สุด

การเว้นระยะห่างทางสังคมคือหัวใจสำคัญในการชะลอการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่า ซึ่งเราควรปฏิบัติอย่างจริงจัง แต่เราทุกคนต้องพึงตระหนักรู้ว่า มันคือการเว้นระยะห่างทางกาย ไม่ใช่ทางจิตใจ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนจงภูมิใจในการกระทำเล็กๆนับล้านที่แสดงถึงการมีมนุษยธรรม ความจริงใจ และการมีกำลังใจที่จะต่อสู้ ที่เห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้

สบู่คืออาวุธเดียวที่พวกเรามีจนกว่าจะมีวัคซีนรักษาไวรัส COVID-19

บุคลากรทางการแพทย์เห็นตรงกันว่า การล้างมืออย่างละเอียดและบ่อยครั้งด้วยสบู่ หรือการใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ คือวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการหยุดการแพร่กระจายการติดเชื้อ

"ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกการกระทำของทุกคนในสังคมมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสู้กับบททดสอบครั้งนี้ บริษัทฯ ยูนิลีเวอร์พร้อมทำหน้าที่ของพวกเราแล้ว และต่อสู้ไปด้วยกัน” นายอลัน โจป กล่าว"

เนื่องจากเราเป็นบริษัทผู้ผลิตสบู่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรามีหน้าที่ช่วยเหลือผู้คน เรามีความรับผิดชอบทางสังคม ทางการแพทย์ และทางศีลธรรม ในการผลิตสบู่ให้เพียงพอต่อความต้องการของคนทั่วโลก เราจะระดมความรู้และความเชี่ยวชาญของเราเพื่อสอนวิธีการล้างมือที่ถูกต้อง แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ใช้แบรนด์ของเราก็ตาม เพราะฉะนั้นวันนี้ ผมจะมาประกาศมาตรการในการช่วยเหลือระดับโลกและระดับประเทศ เพื่อหยุดยั้งการระบาดของCOVID-19 เพื่อปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคน

การดำเนินการช่วยเหลือของเราจะเริ่มที่ผู้บริโภคและชุมชน ที่เรามีพันธสัญญาไว้แล้วว่าจะมอบ สบู่ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ น้ำยาฆ่าเชื้อ และสินค้าบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3.5 พันล้านบาท (100 ล้านยูโร)

เราจะบริจาคครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้แก่ระบบปฏิบัติการ COVID ภายใต้ World Economic Forum ที่มีส่วนในการช่วยสนับสนุนองค์กรและหน่วยงานด้านสุขภาพของโลก ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง จะเป็นการบริจาคผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายแก่พันธมิตร และการสร้างโปรแกรมให้ความรู้เกี่ยวกับการล้างมือที่ถูกวิธีในระดับชุมชนหรือระดับชาติ

ขณะนี้ บริษัทฯ ของเราใน สหรัฐอเมริกา อินเดีย จีน อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และอีกหลากหลายประเทศ ได้ริเริ่มการบริจาคและให้ความช่วยเหลือแล้ว ยกตัวอย่าง ทีมแบรนด์ไลฟ์บอยของเรา กำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อที่จะผลิตสบู่กว่าล้านก้อน เพื่อบริจาคให้แก่ผู้คนที่ขาดแคลนและต้องใช้ผลิตภัณฑ์สบู่อย่างมาก ผมขอขอบคุณทีมงานยูนิลีเวอร์ที่เสียสละและทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะทีมงานที่ทำงานในโรงงาน ทีมจัดจำหน่าย และทีมวิจัยและพัฒนา ที่คอยควบคุมให้เรามีผลิตภัณฑ์เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

แต่ทุกอย่างไม่ได้จบที่ตรงนี้ เราอยากช่วยเหลือพัทธมิตรของเรา ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพนักงานยูนิลีเวอร์ ที่ต้องการการช่วยเหลือและการนำทางเพื่อผ่านพ้นวิกฤตทางการเงินในช่วงเวลานี้ ยูนิลีเวอร์มอบสภาพคล่องทางการเงินในวงเงินกว่า 17.5 พันล้านบาท (500 ล้านยูโร) ให้แก่ลูกค้าและซัพพลายเออร์ เพื่อช่วยเหลือให้ชีวิตความเป็นอยู่แก่บุคคลที่อยู่ใน value chain ของเรา โดยเร่งรัดการจ่ายเงินสำหรับ ซัพพลายเออร์ขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และขยายเครดิตแก่ร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งธุรกิจพึ่งพายูนิลีเวอร์ เพื่อช่วยประคับประคองและรักษาการจ้างงาน

ในส่วนของพนักงานยูนิลีเวอร์ ซึ่งสุขภาพความเป็นอยู่มีความสำคัญสูงสุด ทางบริษัทฯ จะปกป้องพนักงานจากรายได้ที่ลดลง อันเป็นผลมาจากการหยุดชะงักทางธุรกิจหรือการไม่สามารถปฏิบัติงานได้เป็นระยะเวลานานเกือบสามเดือน บริษัทฯ จะรับผิดชอบดูแลพนักงานบริษัทฯ ผู้รับเหมา และผู้รับจ้างงานอื่นที่ทำงานให้กับ ยูนิลีเวอร์ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างานประจำหรือชั่วคราวก็ตาม โดยจะครอบคลุมแก่บุคคลที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐ หรือผู้จ้างงานตรง และเพื่อให้ชัดเจน ยูนิลีเวอร์ จะให้การคุ้มครองแก่พนักงานทุกคนทั้งหมดไม่ว่าหญิง หรือชาย ผู้ที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ทำความสะอาด และดูแลความเรียบร้อยของโรงอาหารของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นทีมเดียวกับเรา แม้พวกเขาจะไม่ได้รับค่าจ้างมาจากยูนิลีเวอร์ก็ตาม

ในสถานการณ์เช่นนี้

ทุกการกระทำของทุกคนในสังคมจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสู้กับบททดสอบครั้งนี้ บริษัทฯ ยูนิลีเวอร์พร้อมทำหน้าที่ของพวกเราแล้ว และร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน

ขอให้ทุกคนปลอดภัย และมีสุขภาพที่แข็งแรง

อลัน โจป

กลับไปด้านบน