เสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว
เราจะดำเนินการเพื่อปรับปรุงสุขภาพของโลกให้ดีขึ้นการจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติและสร้างโลกที่ปราศจากขยะ
เราจะมีส่วนสนับสนุนเพื่อโลกที่มีความยุติธรรมและยอมรับความแตกต่างทางสังคมมากขึ้น
มุ่งเน้นความเท่าเทียมความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างในทุกสิ่งที่เราทำกระตุ้นธุรกิจของเราให้ยกระดับมาตรฐานชีวิตอย่างจริงจังและเตรียมผู้คนให้พร้อมสำหรับงานในอนาคต
ในขณะเดียวกันเราจะส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของแต่ละคนแบรนด์ของเราจะเป็นหัวใจสำคัญของงานนี้ – เพราะแบรนด์คงอยู่มาตลอดการดำเนินกิจการของเรา
เรารู้ว่าสิ่งนี้จะสร้างความแตกต่างได้อย่างมากมายแต่เราก็รู้ว่าปัญหาที่ต้องดำเนินการนั้นใหญ่เกินกว่าที่ธุรกิจเดียวจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เอง
โอกาสสำคัญที่สุดสำหรับผลกระทบในเชิงบวกอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของเราและสังคมที่เราติดต่อด้วยดังนั้นเราจะต้องใช้ขนาดที่ใหญ่ของ Unilever อย่างเต็มที่เพื่อสร้างอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจและนโยบายของพนักงานที่เราทำงานด้วยรวมถึงในเศรษฐกิจที่เราดำเนินกิจการ
เนื่องจากเราทุกคนต้องการเห็นโลกที่มีความเท่าเทียมยอมรับความแตกต่างทางสังคมและมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นข้อความนี้จึงเป็นที่ชัดเจน: เสียเวลาไม่ได้อีกแล้วลงมือทำกันเถอะ
โลกและสังคมของเราในประเทศไทย
เรามีการดำเนินการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สร้างความเท่าเทียมในสังคม และปรับปรุงสุขภาพของโลก
ด้วยขนาดขององค์กรเราและแบรนด์ของเรา เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีได้
ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้เร่งแจกจ่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและอาหารแห้งเพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคคลากรด่านหน้าในการต่อสู้กับโควิดและกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงรวมทั้งได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนี้
นอกจากนี้ เราได้ขยายเครดิตเทอมเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินแก่พันธมิตรคู่ค้าของ
ยูนิลีเวอร์ ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและเพื่อสร้างความเท่าเทียมในสังคม ยูนิลีเวอร์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรโดยการค้นหาคู่ค้าทางธุรกิจ SMEs ที่มีเจ้าของหรือผู้บริหารเป็นผู้หญิง LGBTQI ผู้พิการ หรือชนกลุ่มน้อยเป็นส่วนใหญ่
ยูนิลีเวอร์ สนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน และเริ่มปฏิวัติพลาสติกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ด้วยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่สนับสนุนการรีไซเคิลและการนำพลาสติกมารีไซเคิล (Post-Consumer Recycled) PCR และมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายด้านพลาสติกในปี พ.ศ. 2568 อันได้แก่ (1) ลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง หรือ 100,000 ตันทั่วโลก (2) บรรจุภัณฑ์ของเราจะต้องใช้ซ้ำได้ รีไซเคิลได้ หรือ ย่อยสลายได้ (3) เรียกเก็บและแปรรูปบรรจุภัณฑ์ของเราให้ได้มากกว่าที่เราขาย แต่เราไม่หยุดยั้งอยู่แต่เพียงเท่านี้ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ยูนิลีเวอร์ได้มีการปรับสูตรผลิตภัณฑ์ซักผ้าเพื่อยกเลิกการใช้เชื้อฟอสซิล และใช้คาร์บอนหมุนเวียนจากพืชเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ Clean Future